อุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการจ่ายค่าตอบแทน โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการเลือกใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ เป็นค่าจ้าง ตามรายงานล่าสุดจากบริษัทเวนเจอร์แคปิทัลระดับโลก แพนเทรา แคปิทัล(Pantera Capital) พบว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา *จำนวนผู้ที่รับเงินเดือนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า* โดยเฉพาะการจ่ายด้วย *สเตเบิลคอยน์* ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 9.6% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด
รายงานนี้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ที่ทำงานในวงการคริปโตมากกว่า 1,600 รายจาก 77 ประเทศทั่วโลก และเน้นย้ำถึงกระแสการนำ ‘ระบบจ่ายเงินแบบบล็อกเชน’ มาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกรณีของสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เช่น *ยูเอสดีซี(USDC)* และ *เทเธอร์(USDT)* ซึ่งได้รับ ‘ความเชื่อมั่นจากองค์กร’ มากขึ้นอย่างชัดเจน
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ ยูเอสดีซี(USDC) กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 สำหรับการจ่ายค่าจ้างในรูปแบบคริปโต โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 63% เหนือกว่าเทเธอร์(USDT) แม้ว่าในแง่ของปริมาณการซื้อขายแล้ว เทเธอร์ยังถือว่าใหญ่ที่สุดก็ตาม รายงานระบุว่า “ในเบื้องต้น การเลือกใช้ USDC อาจดูเหมือนว่าเกิดจากผู้ตอบแบบสอบถามที่มีภูมิหลังจากโลกตะวันตก แต่เมื่อพิจารณาแล้ว พบว่าผู้ให้บริการจ่ายเงินเดือนหลัก เช่น Deel, Remote และ Rippling ต่างก็ไม่รองรับ USDT ในระบบของตน” ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ดังกล่าว
เมื่อรวมยูเอสดีซีและเทเธอร์เข้าด้วยกัน จะพบว่าทั้งสองสกุลครอง *มากกว่า 90%* ของการจ่ายเงินเดือนด้วยคริปโตทั้งหมด แสดงให้เห็น ‘อิทธิพลที่ชัดเจน’ ของสเตเบิลคอยน์ในระบบเศรษฐกิจคริปโตยุคใหม่ ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิจัยด้านการเงินแบบกระจายศูนย์อย่าง DeFiLlama ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของสเตเบิลคอยน์อยู่ที่ประมาณ 2.686 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 373.5 ล้านล้านวอน
รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมบล็อกเชนกำลังก้าวเข้าสู่ ‘ระบบเศรษฐกิจในชีวิตจริง’ โดยที่ *สเตเบิลคอยน์ได้รับการยอมรับ* ในฐานะเครื่องมือรักษามูลค่าที่มั่นคง และถูกนำไปใช้จริงในระบบค่าตอบแทนมากขึ้นเรื่อย ๆ *ความคิดเห็น*: หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป การจ่ายเงินเดือนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอาจกลายเป็น ‘รูปแบบการจ้างงานกระแสหลัก’ ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปีข้างหน้า
ความคิดเห็น 0