ความเคลื่อนไหวของ *เชนลิงก์(LINK)* กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังราคาพุ่งทะลุ 24 ดอลลาร์ (ราว 33,360 บาท) ท่ามกลางกิจกรรมเครือข่ายที่เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า ‘วาฬ’ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาขยับขึ้นถึง 45% ภายในเวลาไม่กี่วัน สร้างกระแสคาดหวังการปรับขึ้นต่อในหมู่นักลงทุนที่อยู่ในตลาด
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนซานติเมนต์(Santiment) พบว่า ตัวชี้วัดบนบล็อกเชนร์ของเชนลิงก์กำลังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ โดยจำนวน *แอดเดรสที่ใช้งาน* พุ่งขึ้นแตะ 6,463 ราย เป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน พร้อมกับจำนวน *ธุรกรรมขนาดใหญ่* ที่มีมูลค่าเกิน 100,000 ดอลลาร์ (ราว 1.39 ล้านบาท) ก็พุ่งสูงถึง 4,624 รายการ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 7 เดือนอีกด้วย
ซานติเมนต์ยังรายงานว่า ความรู้สึกของนักลงทุนที่มีต่อเชนลิงก์ได้ปรับเปลี่ยนไปในทิศทาง *เชิงบวกอย่างชัดเจน* โดยข้อความหรือคอมเมนต์ในฝั่ง ‘บวก’ มีปริมาณมากกว่าฝั่ง ‘ลบ’ ถึง 3.3 เท่า ซึ่งถือเป็นระดับความมั่นใจสูงสุดในรอบ 4 เดือน “ความคิดเห็น” นี้แสดงให้เห็นถึงกระแสการเก็งกำไรฝั่งซื้อที่กลับมาในตลาดอย่างจริงจัง
ในขณะเดียวกัน กระแสการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักลงทุนก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดย *อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)* นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง เผยว่า ภายใน 48 ชั่วโมงล่าสุด มีเหรียญเชนลิงก์มากกว่า 2 ล้านเหรียญ ถูกถอนออกจากกระดานซื้อขายเข้าสู่กระเป๋าสตางค์ส่วนตัว ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ถือครองอาจมีแนวโน้มเก็บเหรียญไว้ในระยะยาว แทนการขายทำกำไรระยะสั้น ซึ่งเป็นสัญญาณ *ลดแรงกดดันในการขาย* และเสริมแรงบวกต่อราคาได้
แม้ว่าในเชิงราคาจะยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2021 กว่าครึ่งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนยังคงเชื่อในศักยภาพของเหรียญนี้ เช่น เทรดเดอร์รายหนึ่งในชื่อ *จอห์นนี(Johnny)* วิเคราะห์ว่า LINK กำลังเข้าสู่ “ช่วงรอบขาขึ้นครั้งที่สอง” ส่วน *ไมลส์ ดอยเชอร์(Miles Deutscher)* ก็ระบุว่า เชนลิงก์คือ “หนึ่งในเหรียญอัลท์คอยน์ขนาดใหญ่ที่น่าจับตามองที่สุดในรอบนี้”
ในเชิงเทคนิค เทคโนโลยีของเชนลิงก์ก็มีการพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงโลก *การเงินดั้งเดิมเข้ากับดีไฟน์(DeFi)* ล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ *‘สตรีมข้อมูลหุ้นสหรัฐและ ETF’* โดยสามารถเผยแพร่ข้อมูลราคาจากสินทรัพย์สำคัญ อาทิ เช่น CRCL, QQQ, หุ้นเอ็นวิเดีย(NVDA), และไมโครซอฟท์(MSFT) ไปยังระบบบล็อกเชนถึง 37 เครือข่าย ช่วยให้สามารถใช้ข้อมูลในการออกแบบผลิตภัณฑ์ดีไฟน์ เช่นโทเคนหุ้น, ฟิวเจอร์แบบไม่มีวันหมดอายุ หรือ ETF จำลองต่าง ๆ ได้แบบ ‘เรียลไทม์’
แนวโน้มบวกจาก *พฤติกรรมบนเครือข่าย, การสะสมของวาฬ, บรรยากาศเชิงบวกทางสังคม และการต่อยอดเทคโนโลยี* ได้กลายเป็น ‘แรงหนุน 4 ด้าน’ ที่ช่วยขับเคลื่อนมูลค่าของเชนลิงก์ในขณะนี้ จับตาว่าเหรียญนี้จะสามารถใช้โมเมนตัมที่มีอยู่ ยืนระยะสร้างขาขึ้นครั้งใหม่ได้หรือไม่
ความคิดเห็น 0