อีเธอเรียม(ETH) กำลังส่งสัญญาณว่าอาจกลับเข้าสู่ช่วงตลาดกระทิงอีกครั้ง หลังจากล่าสุดมีการปรากฏของรูปแบบ *bullish engulfing candle* บนกราฟรายวัน ซึ่งกระตุ้นให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มกลับคืนมา โดยแรงซื้อของ *นักลงทุนสถาบันและวาฬคริปโต* ที่ยังคงสะสมราคาต่ำ รวมถึงปริมาณการเปิดสถานะเลเวอเรจ (leverage position) ที่เพิ่มขึ้น กำลังส่งสัญญาณว่าอาจมีการเบรกแนวต้านที่สำคัญของ ETH ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ *รัฐบาลสหรัฐฯ* เองก็มีการเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ ETH เพิ่มความตึงเครียดและน้ำหนักเชิงสัญลักษณ์ให้กับสถานการณ์ในตลาด
แคส อาเบ(Cas Abbé) นักวิเคราะห์คริปโตชั้นนำ ระบุว่า บริเวณราคา *4,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.83 ล้านบาท)* คือจุดที่เกิดรูปแบบ *bullish engulfing* ซึ่งเป็นสัญญาณว่าฝั่งซื้อเริ่มแย่งชิงความได้เปรียบกลับมาจากแรงขายก่อนหน้า เขาชี้ว่า “ขณะนี้ผู้ถือครองบิตคอยน์(BTC) กำลังสลับพอร์ตจาก BTC มาลงใน ETH ขณะที่ผู้เล่นสถาบันก็ยังคงเข้าซื้อต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เวลาที่ควรวางมุมมองลบต่ออีเธอเรียม”
อีกหนึ่งปัจจัยที่สะท้อน *ความหวังในตลาด* คือมูลค่าของ ‘*สัญญาค้าง(open interest)*’ ในตลาดอนุพันธ์ ETH ซึ่งเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ *28,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.89 ล้านล้านบาท)* ยืนยันว่าบรรดาเทรดเดอร์กำลังเพิ่มการเดิมพันมากขึ้น เมอรืลิน เดอะเทรดเดอร์(Merlijn The Trader) แสดงความคิดเห็นว่า “เคสลักษณะนี้มักนำไปสู่การปรับตัวแรงโดยไม่ผ่านช่วงพักฐาน ทำให้ตลาดเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ”
ขณะเดียวกันควรจับตามองการสะสมสินทรัพย์ของทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ และวาฬรายใหญ่ โดยเมอร์ลินเปิดเผยว่า *รัฐบาลสหรัฐฯ* ได้เข้าซื้ออีเธอเรียมเพิ่มเติมอีก *มูลค่า 332,460 ดอลลาร์ (ประมาณ 46.17 ล้านบาท)* ดันยอดถือครองรวมเป็น *254 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.53 พันล้านบาท)* พร้อมระบุว่า “นี่ไม่ใช่แค่ความสนใจในเชิงทดลองของภาครัฐ แต่เป็นกลยุทธ์ในการสะสมพลังทางอำนาจในอนาคต”
ในมุมมองของนักวิเคราะห์สายออนเชน อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) รายงานว่ากลุ่มวาฬที่ถือ ETH ตั้งแต่ 10,000-100,000 เหรียญ ได้เข้าซื้อสะสมเพิ่มอีก *400,000 ETH (มูลค่าราว 5.91 แสนล้านบาท)* ส่งผลให้กลุ่มนี้มีการถือครองรวมทั้งสิ้น *30 ล้าน ETH* หรือคิดเป็น *25% ของอุปทานที่หมุนเวียนทั้งหมด* ซึ่งหมายความว่าปริมาณ ETH ที่เปิดให้ซื้อขายในตลาดเริ่มน้อยลง เป็นปัจจัยที่ช่วยลด *แรงกดดันฝั่งขาย* และเสริมโอกาสในการเกิด *การฟื้นตัวของราคา*
ด้าน *การวิเคราะห์เชิงเทคนิค* แพลตฟอร์ม Bitcoinsensus รายงานว่า กำลังมีการก่อตัวของรูปแบบ *inverse head and shoulders* บนกราฟ 4 ชั่วโมง โดยมีเส้นแนวต้านสำคัญอยู่ที่ *4,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.98 ล้านบาท)* หาก ETH สามารถทะลุและยืนเหนือระดับนี้พร้อมปริมาณการซื้อที่มากเพียงพอ แนวต้านถัดไปอาจอยู่ที่ *4,666 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.49 ล้านบาท)* อย่างไรก็ตาม หากไม่มีวอลุ่มที่หนุนเพียงพอ ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานกลับลงมา
โดยสรุป อีเธอเรียมกำลังเผชิญกับสัญญาณบวก 3 ประการ ได้แก่ *แรงซื้อที่แข็งแกร่ง, มูลค่าสัญญาค้างสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และการสะสมสินทรัพย์ของผู้เล่นรายใหญ่* หากสามารถฝ่าด่านแนวต้านสำคัญไปได้ ก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ตลาดอาจเข้าสู่ *ช่วงขาขึ้นที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2021*
ความคิดเห็น 0