Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) แกว่งผันผวนที่ 4,300 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นขาขึ้นรอบใหม่

อีเธอเรียม(ETH) แกว่งผันผวนที่ 4,300 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นขาขึ้นรอบใหม่ / Tokenpost

อีเธอเรียม(ETH) กำลังเผชิญความผันผวนในระยะสั้น โดยล่าสุดราคาแกว่งตัวบริเวณ 4,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะมีแรงขายและภาวะร้อนแรงในตลาดฟิวเจอร์ส แต่การไหลเข้าของเงินทุนผ่านกองทุน ETF และการเติบโตของการแปลงสินทรัพย์จริงเป็นโทเคน(real-world asset - RWA) กลายเป็นแรงขับเคลื่อนระยะกลางถึงยาวที่ช่วยพยุงราคา โดยนักวิเคราะห์มองว่าการปรับฐานนี้อาจเป็น ‘กระบวนการรีเซ็ต’ เพื่อเตรียมรับแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว

เมื่อวันที่ 21 (เวลาท้องถิ่น) ราคาอีเธอเรียมฟื้นขึ้นมา 1.2% แตะระดับ 4,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 591,000 บาท) หลังปรับตัวลงตลอดสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ บริษัคคริปโตเควนต์(CryptoQuant) ระบุว่าปริมาณ ETH ที่อยู่ในกระดานแลกเปลี่ยนพุ่งขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมักบ่งชี้ว่าความเป็นไปได้ในการขายทำกำไรกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้ราคามีโอกาสอ่อนตัวลงสู่ช่วง 3,950 – 4,100 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 549,000 – 570,000 บาท)

ในฝั่งตลาดฟิวเจอร์ส สัญญาณ ‘ร้อนเกินไป’ ยิ่งชัดเจนขึ้น โดยข้อมูลสะสมจากคำสั่งซื้อขายสะสม(CVD) ของฟิวเจอร์สอีเธอเรียมระยะ 90 วัน ระบุว่าอัตราการขายมีมากกว่าซื้อชัดเจน และบริเวณราคาสูงสุดยังมีการสะสมปริมาณมาก ส่งผลให้ความเสี่ยงในการถูกปิดสถานะราคาบังคับ(liquidation) เพิ่มขึ้น หากเกิดการเทขายจากตำแหน่งเลเวอเรจ นั่นอาจนำไปสู่การร่วงลงของราคาอย่างเฉียบพลัน ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ‘ตลาดยังเปราะบางต่อแรงกดดันจากฟิวเจอร์ส’

อย่างไรก็ดี มุมมองระยะกลางถึงยาวยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวโน้ม ‘การไหลเข้าของ ETF’ ในสหรัฐฯ ที่เสถียร และการที่บริษัทเอกชนนำอีเธอเรียมมาใช้ในกลยุทธ์ปกป้องเงินทุน ความเคลื่อนไหวในตลาด RWA ยิ่งตอกย้ำว่า *ความต้องการใช้งานอีเธอเรียมจริงๆ กำลังเพิ่มขึ้น* นักวิเคราะห์จำนวนมากจึงเชื่อว่าการเติบโตของดีมานด์นี้เป็นปัจจัยหนุนราคาหลักของ ETH ในอนาคต

นักลงทุนจำนวนไม่น้อยกำลังจับตาว่าภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ราคาจะฟื้นตัวต่อได้หรือไม่ โดยถ้าปริมาณ ETH ในแพลตฟอร์มอุปถัมภ์เริ่มทรงตัว และฝั่งฟิวเจอร์สบรรเทาแรงขายได้ ก็มีโอกาสที่อีเธอเรียมจะ ‘รีเทสต์’ ระดับ 4,300 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 598,000 บาท) และพุ่งต่อไปยังระดับที่สูงกว่า

อีกด้านหนึ่ง การแข่งขันแสดงบทบาทนำตลาดระหว่างอีเธอเรียมและบิตคอยน์(BTC) มีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยนักวิเคราะห์ มายล์ส ดอยเชอร์(Miles Deutscher) ให้ความเห็นว่า “ETF เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนถ่าย เพราะกระทั่งบริษัทที่ใช้บัญชีรายงานผลประกอบการก็เริ่มชัดเจนว่า ETH เริ่มนำหน้า BTC” ตัวอย่างเช่น บริษัทจดทะเบียนอย่าง บิทไมน์ อิมเมอร์ชัน เทคโนโลยี(BitMine Immersion Technologies) ที่เน้นลงทุนใน ETH มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยสูงถึง 48 ล้านหุ้นต่อวัน ซึ่งมากกว่าบริษัทไมโครสแตรทิจี้ของไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ที่เฉลี่ยเพียง 12 ล้านหุ้น ขณะที่บริษัทดังกล่าวยังถือครอง ETH มากถึง 1.5 ล้านเหรียญ กลายเป็น *‘หน่วยงานเอกชนที่ถือ ETH มากที่สุดในโลก’* ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายรายสัปดาห์ของบิตคอยน์ในตลาดจริงมีเพียงหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับ ETH ทำให้ตลาดเริ่มมีการพูดถึงความเป็นไปได้ของปรากฏการณ์ ‘ฟลิปเพนนิ่ง(flippening)’ หรือการที่ ETH ครองตลาดมากกว่า BTC อย่างแท้จริง แต่กระนั้น ความสำเร็จของอีเธอเรียมในแง่ ‘การครองอำนาจในตลาด’ ยังต้องติดตามสัญญาณตอบรับในระยะต่อไป

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองตรงกันว่า *“การสั่นคลอนในปัจจุบันเป็นเพียงบทนำของแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหม่”* โดยระบุว่า หากแรงขายระยะสั้นเจือจางลง และ ETF คงกระแสแรงซื้อควบคู่กับดีมานด์จากโลกจริง ETH มีศักยภาพสูงที่จะเข้าสู่ ‘รอบขาขึ้นใหม่ที่แข็งแกร่ง’ ได้ในระยะเวลาอันใกล้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1