ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยการรีบาวด์เล็กน้อย แต่ท่ามกลางสัญญาณที่ซับซ้อนทั้งจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวและแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนบางส่วนยังคงระมัดระวังและไม่สามารถคาดเดาทิศทางตลาดได้อย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 2 หลังเปิดตลาดเอเชีย บิตคอยน์(BTC) ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.55 ล้านบาท) ก่อนที่จะเผชิญแนวต้านและถอยลงมาอยู่ที่ 111,640 ดอลลาร์ (ราว 1.55 ล้านบาท) ด้านอีเธอเรียม(ETH) ก็ขยับขึ้นแตะ 4,140 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.75 ล้านบาท) แต่ไม่สามารถรักษาระดับไว้ได้และเข้าสู่ภาวะปรับฐาน ขณะที่เหรียญทางเลือกอย่างอาวาแลนเช(AVAX), เชนลิงค์(LINK) และคาร์ดาโน(ADA) พยายามพลิกกลับเป็นขาขึ้นช่วงสั้น แต่ยังไม่สามารถฟื้นจากแรงขายรุนแรงในช่วงก่อนหน้าได้อย่างเต็มที่
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดคริปโตในสัปดาห์นี้ คือการประกาศตัวเลขแรงงานจากทางธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่อาจกำหนดแนวทางนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด โดยในวันที่ 3 จะมีการเปิดเผยรายงานการเปิดรับสมัครงานและการลาออก (JOLTS) พร้อมตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่วนวันที่ 4 จะมีรายงานการจ้างงานภาคเอกชน(ADP) และดัชนี PMI ภาคการผลิต ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในวันที่ 5 และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 6 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนคาดว่าจะส่งผลต่อมุมมองทางนโยบายของเฟดได้อย่างมีนัยสำคัญ
มิเชล โบว์แมน(Michelle Bowman) รองประธานเฟด ได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพเมื่อไม่รวมผลกระทบจากภาษีและการค้า แต่ตลาดแรงงานกำลังแสดงสัญญาณของความเปราะบาง จึงมีความจำเป็นที่ ‘เฟดควรดำเนินมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจน’ หากตัวเลขแรงงานในสัปดาห์นี้ออกมาต่ำกว่าคาด อาจยิ่งเพิ่มความหวังต่อการเปลี่ยนทิศการดำเนินนโยบายเข้าสู่ท่าทีผ่อนคลายเร็วขึ้น
ในขณะเดียวกัน มูลค่ารวมตลาดคริปโตกลับฟื้นตัวเล็กน้อยในวันแรกของเดือนตุลาคม โดยเพิ่มขึ้น 2.2% แตะระดับประมาณ 3.95 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 5,495 ล้านล้านบาท) แม้จะอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา *ความคิดเห็น* นักวิเคราะห์มองว่าผลของข้อมูลแรงงานอาจนำไปสู่การ ‘พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วหรือร่วงลงอีกครั้งในระยะสั้น’
แม้ว่าทิศทางนโยบายจะยังไม่ชัดเจนในระยะยาว นักลงทุนรายใหญ่และเทรดเดอร์ต่างจับตาการประชุมเฟดในเดือนตุลาคมและธันวาคม พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงอย่างบิตคอยน์ที่อาจได้รับอานิสงส์จากการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินร่วมกับตลาดหุ้น, ทองคำ และโลหะเงิน
สุดท้ายแล้ว สัปดาห์นี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขเศรษฐกิจธรรมดา แต่เป็น *‘จุดเปลี่ยนสำคัญที่สะท้อนทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ’* นักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวระหว่างตลาดแรงงานและถ้อยแถลงจากเฟดอย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อความผันผวนโดยรวมของตลาดคริปโตในภาพรวม
ความคิดเห็น 0