บรรยากาศ ‘อัพโทเบอร์’ (Uptober) ของตลาดคริปโตในสหรัฐฯ ยังคงคึกคัก โดย ‘ริปเปิล(XRP)’ กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 บริษัทจดทะเบียน วิโวพาวเวอร์(VivoPower) ประกาศระดมทุนได้มากถึง 1,900 ล้านดอลลาร์ (ราว 263,000 ล้านวอน) เพื่อนำไปจัดตั้งพอร์ตการเงินด้วยคริปโตที่มี ‘ริปเปิล’ เป็นแกนหลัก ขณะเดียวกัน ริปเปิลได้ทำการปลดล็อกจากบัญชีเอสโครว์ตามรอบประจำเดือน นำเหรียญ XRP จำนวน 1,000 ล้านเหรียญออกสู่ระบบ และจุดกระแสความคาดหวังครั้งใหม่ต่อการอนุมัติ ‘ETF ริปเปิลแบบสปอต’ ที่จะยิ่งหนุนราคาพุ่งขึ้น
ราคาล่าสุดของริปเปิลขยับใกล้เคียง 2.90 ดอลลาร์ต่อเหรียญ (ประมาณ 4,031 วอน) โดยนักวิเคราะห์มองแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3.10–3.20 ดอลลาร์ (ราว 4,310–4,448 วอน) หากทะลุผ่านได้มีโอกาสแตะระดับ 3.30 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,587 วอน) ได้ แนวโน้มเชิงบวกนี้ได้รับแรงหนุนจากข้อเท็จจริงที่ว่า แม้เอสโครว์จะปล่อย XRP ทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ แต่กว่า 70% ถูกนำกลับไปล็อกใหม่ ทำให้ปริมาณเหรียญที่เข้าสู่ตลาดจริงอยู่แค่ราว 300 ล้านเหรียญเท่านั้น สร้างแรงหนุนด้านจิตวิทยาการลงทุนอย่างมีนัยยะ
ในฝั่งของบิตคอยน์(BTC) กระแสเชิงบวกยังดำเนินต่อ โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 118,600 ดอลลาร์ (ราว 1.65 พันล้านวอน) หากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.668 พันล้านวอน) ได้ ก็อาจสร้าง ‘จุดสูงสุดใหม่’ ได้ในไม่ช้า ความเชื่อมั่นในตลาดยังได้แรงสนับสนุนจากเงินทุนของนักลงทุนสถาบันที่ไหลเข้า ETF และการเก็งกำไรด้วยความเสี่ยงสูงในตลาดล่วงหน้า
ด้านอีเธอเรียม(ETH) ยังคงอยู่ในทิศทางแข็งแกร่ง โดยราคารักษาระดับที่ 4,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 583 ล้านวอน) และมีเงินทุนใหม่จาก ETF ไหลเข้าสู่ระบบกว่า 80.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,120 ล้านวอน) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาเดินหน้าแตะระดับ 4,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 625 ล้านวอน) ได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม หากแนวรับหลักที่ 4,171 ดอลลาร์ (ประมาณ 580 ล้านวอน) พังลง ก็มีโอกาสที่แนวโน้มจะกลับทิศจากขาขึ้นเป็นขาลง จึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด
ในกลุ่มเหรียญมีม โดชคอยน์(DOGE) กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจอีกครั้ง โดยปริมาณสัญญาฟิวเจอร์สที่เปิดอยู่ในระบบสูงถึง 166.7 พันล้าน DOGE ทำให้มูลค่ารวมของตลาดอนุพันธ์เฉพาะใน DOGE พุ่งไปกว่า 3.96 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านล้านวอน) โดยเฉพาะที่กระดานเทรดอย่างไบแนนซ์, บายบิท และเกต (Gate.io) มีการวางสถานะ Long มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ราคาปัจจุบันของโดชคอยน์อยู่ที่ราว 0.243 ดอลลาร์ (ประมาณ 338 วอน) ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองเป้าหมายใหม่ที่ 0.30 ดอลลาร์ (417 วอน) และอาจไปถึงระดับ 0.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 695 วอน) ในช่วง ‘อัพโทเบอร์’
ในอีกด้านหนึ่ง เจตแคช(Zcash) เหรียญที่เน้นความเป็นส่วนตัว กลับเป็นม้ามืดที่แรงแซงโค้ง โดยภายในวันเดียว ราคาพุ่งขึ้นมาถึง 59% ส่วนเหรียญมีม SPX6900 และคริปโตจากเครือข่ายต่างประเทศอย่าง โครโนส(CRO) ก็ขยับขึ้นมากกว่า 10% สะท้อนชัดเจนถึงการกลับมาของกระแส ‘การยอมรับความเสี่ยง’ ที่ผู้ลงทุนกลับมาโอบรับอีกครั้ง
อีกปัจจัยสนับสนุนที่สร้างแรงซื้อในตลาดคริปโตทั่วโลก คือความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะ ‘ลดดอกเบี้ย’ ภายในปีนี้ โดยในตลาดซื้อขายฟิวเจอร์ส ปัจจัยนี้ถูกสะท้อนด้วยความน่าจะเป็นสูงถึงกว่า 97% ซึ่งหมายความว่า สินทรัพย์ความเสี่ยงอย่างสกุลเงินดิจิทัล อาจได้เห็นเม็ดเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะใกล้นี้
ขณะเดียวกัน ความล่าช้าในการเจรจางบประมาณของสภาคองเกรส ที่อาจนำไปสู่การ ‘ชัตดาวน์ของรัฐบาลกลางบางส่วน’ ทำให้ตลาดจับตาปัจจัยลบอย่างระมัดระวัง แต่บางฝ่ายกลับมองว่า สถานการณ์ดังกล่าว อาจยิ่งทำให้สินทรัพย์นอกกระแสหลักอย่าง ‘ETF คริปโต’ ดูมีความน่าสนใจในฐานะทางเลือกที่ปลอดจากระบบเดิมที่ไม่น่าเชื่อถือ นักวิเคราะห์บางส่วนยังระบุว่า สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางการเมืองขณะนี้ อาจเปิดโอกาสให้ ‘ประธานาธิบดีทรัมป์’ หยิบยกเรื่องคริปโตมาใช้เป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งปีหน้าอีกครั้งก็เป็นได้
ความคิดเห็น 0