ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังเผชิญภาวะซบเซาในช่วงปลายเดือนกันยายน โดย *บิตคอยน์(BTC)* กลับมาได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สืบเนื่องจากความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะมีการปิดบางหน่วยงานชั่วคราว (Government Shutdown) สร้างแรงกดดันด้านความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน
นักวิเคราะห์ชี้ว่า เมื่อความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น นักลงทุนจึงหันไปลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ *บิตคอยน์* ซึ่งเริ่มแสดงสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง
ชาร์ลส เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์แคฟริออล อินเวสต์เมนต์ คาดการณ์ว่า *บิตคอยน์* อาจพุ่งขึ้นแตะ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.08 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี หากราคาทองคำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ราคาของ *บิตคอยน์* ทะลุแนวต้านที่ 120,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.67 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม และยังคงทรงตัวที่ระดับ 120,122 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.67 ล้านบาท) ในวันศุกร์
ในขณะเดียวกัน อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี บิตเม็กซ์ (BitMEX) เปิดเผยว่า หากธนาคารกลางยุโรป(ECB) ต้องอัดฉีดสภาพคล่องหลายล้านล้านยูโรเพื่อตอบสนองต่อปัญหาขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในฝรั่งเศส ก็อาจเป็นแรงส่งให้นักลงทุนหันมาถือครอง *บิตคอยน์* มากขึ้น
ท่ามกลางความล่าช้าในการเจรจาจัดทำงบประมาณของสภาคองเกรส และความกังวลต่อภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐ ประกอบกับวิกฤตด้านการคลังในยุโรป ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยิ่งเพิ่มสูงขึ้น *ความคิดเห็น*: บิตคอยน์จึงอาจกลายเป็นตัวเลือกหลบภัยของนักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงในยุคเศรษฐกิจผันผวน
นักวิเคราะห์จำนวนมากเริ่มมองว่า *บิตคอยน์* อาจก้าวขึ้นมาเป็น "ที่พักของทุน" ดิจิทัล เทียบเท่าทองคำในโลกยุคใหม่ หากเงื่อนไขด้านนโยบายการเงินและสภาพเศรษฐกิจยังคงเอื้ออำนวยต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป.
ความคิดเห็น 0