มูลค่าตลาดรวมของ ‘สเตเบิลคอยน์’ ทะลุสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *ประมาณ 417 ล้านล้านวอน (3 แสนล้านดอลลาร์)* ส่งสัญญาณว่าเงินทุนบนเครือข่ายเริ่มขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยหลายฝ่ายมองว่าแนวโน้มนี้อาจกลายเป็น *‘เชื้อเพลิงจรวด’* ที่ผลักดันราคาคริปโตให้พุ่งทะยาน
เมื่อวันที่ 24 เว็บไซต์ CoinTelegraph รายงานว่า *ปริมาณสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 46.8%* ตั้งแต่ต้นปี 2024 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้มูลค่ารวมทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 417 ล้านล้านวอน ทำสถิติสูงสุดใหม่ และมีแนวโน้มจะแซงอัตราการเติบโตของทั้งปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการความเสี่ยงของนักลงทุนในตลาดคริปโตที่กลับมาอย่างเห็นได้ชัด
การเติบโตนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ *บิตคอยน์(BTC)* แสดงสัญญาณแข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มพูดถึง ‘Uptober’ หรือกระแสราคาขาขึ้นในเดือนตุลาคม ทำให้ความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของตลาดมีเพิ่มขึ้น
อันเดรย์ กราเชฟ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโครงสร้างพื้นฐานสเตเบิลคอยน์ Falcon Finance ให้ความเห็นว่า “มูลค่าสเตเบิลคอยน์ที่ทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์ไม่ได้หมายถึงเงินทุนสำรองที่ถูกแช่แข็งอยู่เฉยๆ แต่นี่คือ *เงินทุนที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างจริงจังภายในตลาด*” เขาระบุว่า ปริมาณการโอนย้ายเงินรายเดือนในเครือข่ายอยู่ในระดับหลายล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งอัตราความเร็วในการเคลื่อนไหวยังชี้ว่ามีการใช้งานอย่างจริงจังในระบบนิเวศคริปโต
เขายังเน้นว่า เงินทุนเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อถือครองเฉยๆ แต่ถูกนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ชัดเจน เช่น การชำระธุรกรรมและตั้งโพสิชันทางการเงิน *“สิ่งนี้เน้นย้ำว่าสเตเบิลคอยน์กำลังเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัล”* ความคิดเห็นจากกราเชฟระบุเช่นนั้น
นอกจากนี้ กราเชฟยังกล่าวเพิ่มเติมว่า *สเตเบิลคอยน์กำลังเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับพื้นที่ที่ระบบธนาคารยังไม่ครอบคลุม* โดยถูกใช้งานเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงดอลลาร์ของสหรัฐฯ และเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมและจัดการสินทรัพย์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้บ่งชี้ว่าสเตเบิลคอยน์ไม่ได้เป็นเพียง ‘ที่พักชั่วคราวของเงินหนีความผันผวน’ แต่ถูกยกระดับขึ้นมาเป็น *ตัวชี้วัดด้านสภาพคล่องและการมีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจคริปโตจริงๆ*
และเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับท่าทีสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลของ *ทรัมป์* รวมถึงแนวโน้มการเปลี่ยนนโยบายการเมืองและการเงินของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนขึ้น ตลาดก็มีมุมมองในเชิงบวกเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ความคิดเห็น 0