ในช่วงที่ความนิยมของเหรียญมีมกลับมาเป็นกระแสอีกครั้งในระบบนิเวศของโซลานา(SOL) แพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง *Pump.fun* กำลังเข้ายึดเวทีด้วยฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้สามารถดูแลขั้นตอนตั้งแต่การออกโทเคนไปจนถึงการซื้อขายได้ด้วย ‘คลิกเดียว’ แพลตฟอร์มนี้สามารถครองตลาดเหรียญมีมบนโซลานาได้ถึง *80% ณ เดือนสิงหาคม 2025* ซึ่งถือเป็นการผงาดขึ้นมาครองตลาดได้อย่างน่าจับตามอง
หัวใจของ *Pump.fun* คือความเรียบง่ายและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ใช้งาน โดยผู้สร้างสามารถออกโทเคนใหม่ได้ทันทีผ่านอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร โดยไม่ต้องใช้โค้ดหรือกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม โครงสร้างการเปิดตัวเหรียญใช้สัญญาอัจฉริยะแบบ *Bonding Curve* ที่ตั้งอุปทานไว้ราว 800 ล้านโทเคน เมื่อขายหมดแล้ว ระบบจะเปลี่ยนเป็นกลไก *AMM (Automated Market Maker)* เพื่อเปิดให้มีการซื้อขาย ในช่วงเริ่มต้น แพลตฟอร์มยังเคยใช้ *Raydium* แต่ในปัจจุบันได้ย้ายมาใช้ *PumpSwap* ซึ่งเป็นระบบ DEX ของตัวเอง
อีกหนึ่งจุดแข็งของ Pump.fun คือ *ต้นทุนการสร้างโทเคนแทบจะเป็นศูนย์* โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการมินต์ และจะมีค่าธรรมเนียมคงที่เพียง 0.015 โซลานา (ราว 180 บาท) ที่ระบบจะหักอัตโนมัติจากสภาพคล่องเมื่อโครงการจบขั้นตอน *“Graduation”* หลังจากนั้น โทเคนสภาพคล่อง (LP Token) จะถูก *เผาทิ้งทั้งหมด* ทำให้ไม่สามารถถอนเงินทุนออกมาได้ เพื่อป้องกันการฉ้อโกงในรูปแบบ *Rug Pull*
อย่างไรก็ตาม มีเพียงประมาณ *0.7% - 0.8% ของโทเคนทั้งหมดเท่านั้น* ที่สามารถผ่านขั้นตอนการ Graduation ได้สำเร็จ ซึ่งหมายความว่าเกือบทั้งหมดถูกลืมไปหลังจากเปิดตัว นี่แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่มุ่งเน้นให้โปรเจกต์ที่มีศักยภาพจริงๆ เท่านั้นที่จะอยู่รอดและสร้างสภาพคล่องได้อย่างมีความหมาย
ความสามารถในการครองตลาดของ *Pump.fun* ได้รับแรงหนุนจากการออกแบบเชิงนวัตกรรมและยุทธศาสตร์การตลาด เช่น โครงการ *Project Ascend* ที่มุ่งดึงดูดผู้ใช้งานและผู้สร้าง อีกทั้งยังดำเนินการ *Buyback* โทเคน PUMP มูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละสัปดาห์ โดยบางสัปดาห์ถึงกับใช้รายได้ของแพลตฟอร์ม *มากกว่า 90%* ในการซื้อคืน นอกจากนี้ยังเสนอ *เงินสนับสนุนหลายสิบล้านบาทต่อสัปดาห์* ให้กับนักพัฒนาเพื่อกระตุ้นการเติบโตของระบบนิเวศอีกด้วย
แม้ว่าจะมีคู่แข่งเข้ามาท้าทาย เช่น *LetsBonk* ที่เคยแซงหน้าด้านปริมาณและรายได้ในเดือนกรกฎาคม รวมถึง *HeavenDEX* และ *Raydium LaunchLab* ที่เดินเกมด้วยการให้รางวัลจูงใจและปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม แต่ด้วย *เอฟเฟกต์เครือข่าย (Network Effect)* และการกระจายสภาพคล่องที่เข้มข้น ทำให้ผู้ใช้งานยังคงไหลกลับมาที่ Pump.fun อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในตอนนี้คือ *ปัญหาทางเทคนิคและข้อกฎหมาย* โดยเริ่มมีข้อกล่าวหาเรื่องความปลอดภัยบางกรณี รวมถึงการที่ *คดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม (Class Action)* ได้เริ่มต้นในสหรัฐ ซึ่งมีการพูดถึงความเป็นไปได้ในการใช้ *กฎหมาย RICO* ที่ว่าด้วยองค์กรอาชญากรรม แม้ประเด็นนี้จะสร้างความไม่แน่นอน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่กระทบต่อความเคลื่อนไหวเชิงพาณิชย์ของแพลตฟอร์มอย่างมีนัยสำคัญ
‘Pump.fun’ ไม่เพียงเป็นเครื่องมือสร้างเหรียญมีมเท่านั้น แต่กำลัง *เขียนกติกาใหม่ให้กับวงการ* ในตลาดที่เต็มไปด้วยวัฏจักรซ้ำและการหลอกลวง ผู้ใช้งานเริ่มมองเห็นโอกาสและ ‘ความยั่งยืน’ ผ่านโครงสร้างที่โปร่งใสและเข้มงวดของแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของแนวทางใหม่ถาวรในโลกของคริปโต
ความคิดเห็น 0