บิตคอยน์(BTC) ส่งสัญญาณฟื้นตัว ดัชนีความรู้สึกนักลงทุนพุ่งแตะ 1.47 เตรียมทดสอบแนวต้าน $130,000

บิตคอยน์(BTC) แม้จะเผชิญกับแรงขายและการปรับฐานจากระดับราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ *อารมณ์ของตลาดกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว* และส่งสัญญาณบวกอีกครั้ง จากข้อมูลของไบแนนซ์ แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่า *ดัชนีความรู้สึกของนักลงทุนได้เข้าสู่โซนบวก* หลังจากที่เคยตกต่ำมาเป็นเวลานาน ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลัง ‘เตรียมรับกระแสขาขึ้นครั้งใหม่’

ดัชนีตลาดที่วัดจากความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของผู้ลงทุนกับการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งจัดทำโดยไบแนนซ์ แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีนี้ได้ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย *ความรู้สึกในตลาดเริ่มเปลี่ยนจากความกลัวสู่ความเชื่อมั่น* ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์คริปโต เครียบโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่าค่าดัชนีปัจจุบันอยู่ที่ 1.47 ซึ่งถือเป็นการดีดตัวขึ้นอย่างแรง หากเทียบกับช่วงกลางเดือนกันยายนที่ค่าอยู่ในแดนลบ โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อบิตคอยน์สามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่รายเดือน ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มมองเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวแบบเป็นระบบ

เมื่อพิจารณาในกรอบเวลาระยะสั้นมากขึ้น ดัชนีค่าเฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ 3.7 แสดงถึงความมั่นคงของอารมณ์นักลงทุน ขณะที่ค่าเฉลี่ย 14 วัน (-3.91) และ 30 วัน (-5.02) ยังคงสะท้อน *ท่าทีระมัดระวัง* ของตลาด จึงอาจชี้ให้เห็นว่าตลาดน่าจะยัง *อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัวระยะกลาง* มากกว่าจะเข้าสู่เฟสความร้อนแรง

ในแง่เทคนิค ราคาแนวรับหลักของบิตคอยน์อยู่ที่ราว ๆ $120,000 หรือราว 1.66 ล้านบาท โดยบริเวณนี้มีความผันผวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถือเป็น *สัญญาณเชิงบวกที่ช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของตลาด* ขณะเดียวกัน ไบแนนซ์ยังพบว่า *นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับเข้าสู่ตลาด* โดยเข้าซื้อในจังหวะที่สภาพคล่องฝั่งขายค่อนข้างต่ำในหลายแพลตฟอร์ม

หากดัชนีความรู้สึกยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันต่อไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม มีโอกาสที่บิตคอยน์จะ *กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ $125,000 ถึง $130,000* หรือประมาณ 1.73 - 1.80 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นครั้งนี้มีแนวโน้มเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่จาก *ภาวะเก็งกำไรที่ร้อนแรง*

ด้านภาพรวมโครงสร้างของตลาด ก็มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงชัดเจนเช่นกัน นักวิเคราะห์คริปโต เท็ด ฟิลลอส(Ted Pillows) ให้ความเห็นว่า *วัฏจักร 4 ปีของบิตคอยน์อาจสิ้นสุดลงแล้ว* และตลาดกำลังมุ่งสู่โครงสร้างที่มีความสมดุลมากขึ้น อิงกับ ‘สภาพคล่อง’ แทนฟองสบู่ ฟิลลอสกล่าวว่า ปรากฏการณ์ *จุดพีคที่เกิดจากฟองสบู่ (Bubble Top)* ซึ่งเคยเกิดในทุกปลายรอบวัฏจักร เริ่มจางหายไป แสดงให้เห็นถึง ‘ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสินทรัพย์ดิจิทัล’

เขายังประเมินเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2025 ถึงไตรมาสแรกของปี 2026 *สภาพคล่องระดับโลกจะเข้าสู่ช่วงขยายตัวสูงสุด* ซึ่งอาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ สำหรับการเข้าสู่ *ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ของคริปโตทั้งหมด* เมื่อผนวกกับสถานะในปัจจุบัน ก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่า การฟื้นตัวของบิตคอยน์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่การดีดตัวตามราคา แต่เป็น *สัญญาณของการเข้าสู่ระยะขยายตัวที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง* ของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวม