ไมโครสตราทีจีเปลี่ยนชื่อเป็น 'สตราทีจี' พร้อมใช้บิตคอยน์เป็นโลโก้ใหม่

บริษัทไมโครสตราทีจี(MicroStrategy) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน ‘ธุรกิจอัจฉริยะ’ และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในบิตคอยน์(BTC) ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘สตราทีจี(Strategy)’ พร้อมทั้งใช้บิตคอยน์เป็นโลโก้ใหม่ของบริษัท ทางบริษัทชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเพียง ‘การรีแบรนด์’ และไม่มีผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจเดิมของบริษัท

เมื่อวันที่ 5 (เวลาท้องถิ่น) ไมโครสตราทีจีได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งได้แก่การพัฒนา ‘ซอฟต์แวร์ธุรกิจอัจฉริยะ’ และกลยุทธ์การลงทุนในบิตคอยน์ จะยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ในรายงานผลประกอบการที่จะมีการเปิดเผยในวันเดียวกัน

การรีแบรนด์ครั้งนี้ได้รับการผลักดันจากไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสตราทีจี ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการนำบิตคอยน์มาใช้ในภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันไมโครสตราทีจีถือครองบิตคอยน์จำนวน 471,107 BTC คิดเป็นมูลค่า 45.6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นบริษัทเอกชนที่มีการถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในโลก

กลยุทธ์การลงทุนในบิตคอยน์ของไมโครสตราทีจีส่งผลให้หุ้นของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทอื่นๆ เริ่มเดินตามแนวทางนี้ โดยบริษัทเมตาแพลเน็ต(Metaplanet) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนด้าน Web3 ในญี่ปุ่น ได้เริ่มกลยุทธ์ถือครองบิตคอยน์ตั้งแต่เดือนเมษายน และตั้งเป้าสะสม 10,000 BTC ภายในปี 2025 นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพเซมเลอร์ ไซเอนทิฟิก(Semler Scientific) ก็ได้เพิ่มบิตคอยน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 30%

อีกหนึ่งตัวอย่างคือแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งรัมเบิล(Rumble) ซึ่งเน้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ก็ได้ประกาศว่ามีแผนซื้อบิตคอยน์มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 730 ล้านบาท) เพื่อใช้เป็น ‘เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ’ บริษัทนี้เริ่มลงทุนในบิตคอยน์ครั้งแรกก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนมกราคม 2025

ไมเคิล เซย์เลอร์กล่าวว่า “จำนวนบริษัทที่นำบิตคอยน์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงินองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” พร้อมเสริมว่า “นี่ไม่ใช่แค่การกระจายสินทรัพย์ แต่เป็นการส่งเสริมโอกาสในการเติบโตระยะยาวของบริษัท”