โจเซฟ ลูบิน ชี้นักลงทุน VC ยังมีบทบาทสำคัญต่ออีเธอเรียม(ETH) แม้กระแสวิตกเรื่องการรวมศูนย์

โจเซฟ ลูบิน ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) และผู้ก่อตั้งคอนเซนซิส(ConsenSys) ยืนยันว่านักลงทุนร่วมทุน(VC) ยังคงมีบทบาท ‘สำคัญ’ ต่อการพัฒนาเครือข่ายสมาร์ตคอนแทรกต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการ ‘รวมศูนย์’ ที่เพิ่มมากขึ้นในระบบนิเวศของอีเธอเรียมในช่วงหลัง

ลูบินแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย X ว่า เป้าหมายหลักของ VC อย่างพาราไดม์(Paradigm) คือการ ‘สร้างและดึงมูลค่าจากเครือข่ายอีเธอเรียมและระบบนิเวศโดยรวม’ พร้อมทั้ง ‘ขับเคลื่อนระบบให้พัฒนาไปสู่โครงสร้างการกระจายอำนาจที่เข้มงวดมากขึ้นอย่างเป็นลำดับ’ เขายังระบุเพิ่มเติมว่า “ไม่มีอะไรที่น่ากังวล” เพื่อลดกระแสวิตกของผู้ใช้งานบางส่วนเกี่ยวกับอิทธิพลของผู้ลงทุน

คำแถลงของลูบินเกิดขึ้นหลังจากเกิดกระแสวิพากษ์เกี่ยวกับการย้ายทีมของนักวิจัยหลักจากมูลนิธิอีเธอเรียมไปยังโครงการใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากพาราไดม์ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แดนคราด ไฟสต์(Dankrad Feist) นักพัฒนาชั้นนำของอีเธอเรียม ประกาศออกจากมูลนิธิเพื่อเข้าร่วมใน ‘เทมโป(Tempo)’ เครือข่ายบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่มุ่งเน้นด้านการชำระเงินและสเตเบิลคอยน์ โดยร่วมพัฒนากับบริษัทสตาร์ตอัปทางการเงินอย่างสไตรป์(Stripe) และพาราไดม์ นอกจากนี้ มัลเลช ไพ(Mallesh Pai) อดีตนักวิจัยจากคอนเซนซิส ก็ได้เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษากับพาราไดม์ตั้งแต่ต้นปี ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่งประจำในโครงการเทมโปตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา

กระแสการย้ายทีมดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้ามาของนักลงทุนจากพาราไดม์และบทบาทที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อ ‘ทิศทางเชิงเทคนิคและการกำกับดูแลของอีเธอเรียม’ ซึ่งอาจส่งผลให้เครือข่ายไม่สามารถรักษาอุดมการณ์ของการกระจายอำนาจได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ลูบินกลับมองว่าการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจเป็น ‘สัญญาณบวก’ สำหรับวงการเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยกล่าวว่า “ความตื่นตัวเกี่ยวกับบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนโดยองค์กรเอกชน ถือเป็นกระบวนการในการได้รับการยอมรับจากระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม และนั่นสะท้อนว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่กระแสหลักมากขึ้นเรื่อย ๆ”