Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) ดึงทุนสถาบันทะลุ 205 ล้านดอลลาร์ ชูบทบาทผู้นำฟื้นตลาดคริปโต

อีเธอเรียม(ETH) ดึงทุนสถาบันทะลุ 205 ล้านดอลลาร์ ชูบทบาทผู้นำฟื้นตลาดคริปโต / Tokenpost

อีเธอเรียม(ETH) กลับมายึดความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอีกครั้งแม้ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมจะเผชิญความผันผวน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีเธอเรียมเป็นเพียงสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างกระแสเงินไหลเข้าครั้งใหญ่ ด้วยยอดลงทุนกว่า 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,850 ล้านบาท) ผ่านผลิตภัณฑ์ลงทุนประเภท ETP ซึ่งสะท้อนแรงซื้อที่แข็งแกร่งจากสถาบัน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) บริษัทจัดการสินทรัพย์ CoinShares จากอังกฤษรายงานว่า แรงไหลเข้าล่าสุดของอีเธอเรียมเป็นผลจากยุทธศาสตร์ ‘ซื้อเมื่อราคาต่ำ’ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แบบเลเวอเรจ 2 เท่า ที่มียอดซื้อขายพุ่งขึ้นถึง 457 ล้านดอลลาร์ (ราว 6,357 ล้านบาท) ซึ่งแสดงถึง ‘ความคาดหวัง’ ว่าอีเธอเรียมอาจฟื้นตัวเป็นผู้นำกระแสตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงถัดไป

ในทางกลับกัน ตลาดกองทุนคริปโตโดยรวมประสบภาวะเงินไหลออกหลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องจากไบแนนซ์ ส่งผลให้มีการถอนทุนรวมสูงถึง 513 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,129 ล้านบาท) และหากนับรวมทั้งหมดตั้งแต่เกิดวิกฤติ ตัวเลขดังกล่าวแตะถึง 668 ล้านดอลลาร์ (ราว 9,289 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระยะยาวที่ถือเหรียญแบบออนเชนยังคงมีท่าที ‘ระมัดระวัง’ มากกว่าทุนสถาบันที่พุ่งเข้าผลิตภัณฑ์แบบเร่งผลตอบแทน

การซื้อขายผลิตภัณฑ์ ETP ในสัปดาห์ล่าสุดมีมูลค่ารวม 51,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 70.9 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีถึงเกือบ 2 เท่า บ่งชี้ถึงระดับการมีส่วนร่วมที่เข้มข้นจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ประเด็นนี้ ‘ความคิดเห็น’ ว่าอาจเป็นสัญญาณของการฟื้นตัวของตลาดในระยะสั้น

นอกจากอีเธอเรียมแล้ว สกุลเงินดิจิทัลหลักอื่น ๆ อย่างโซลานา(SOL) และริปเปิล(XRP) ก็ได้รับแรงซื้ออย่างมีนัยสำคัญ โดยมีเงินลงทุนรวม 156 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,168 ล้านบาท) และ 73.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,027 ล้านบาท) ตามลำดับ ปัจจัยสำคัญคือ ‘ความคาดหวัง’ ต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ETP ใหม่ที่อิงกับโครงการเหล่านี้ สร้างแรงหนุนต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ขณะเดียวกัน โครงการอย่างซุย(SUI), คาร์ดาโน(ADA) และเชนลิงค์(LINK) ก็เห็นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าระดับเล็ก เช่น 5.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 82 ล้านบาท), 3.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 51 ล้านบาท) และ 1.8 ล้านดอลลาร์ (ราว 25 ล้านบาท) ตามลำดับ ส่วนไลต์คอยน์(LTC) มีเงินไหลเข้าราว 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 14 ล้านบาท)

ในมุมมองระดับประเทศ สหรัฐอเมริกามีเงินไหลออกจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากที่สุดถึง 621 ล้านดอลลาร์ (ราว 8,629 ล้านบาท) ขณะที่เยอรมนี (54.2 ล้านดอลลาร์), สวิตเซอร์แลนด์ (48 ล้านดอลลาร์) และแคนาดา (42.4 ล้านดอลลาร์) กลับเห็นทิศทางตรงกันข้าม นอกจากนี้ยังมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย (8.2 ล้านดอลลาร์) และบราซิล (6.9 ล้านดอลลาร์) ด้วย

อย่างไรก็ตาม บิตคอยน์(BTC) กลับเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพียงหนึ่งเดียวที่พบการถอนทุนขนาดใหญ่ โดยมีเงินไหลออกจากตลาดมากถึง 946 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) ในรอบสัปดาห์ ตัวเลขการลงทุนสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 29.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024 ที่มีมากถึง 41.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนสินทรัพย์ประเภท ‘ชอร์ตบิตคอยน์’ ก็มีเงินไหลออกเล็กน้อยราว 0.9 ล้านดอลลาร์

CoinShares มองว่า การชะลอตัวของบิตคอยน์เป็นผลกระทบจากแรงขายของนักลงทุนที่ตอบสนองต่อความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แต่ก็เปิดทางให้ ‘ความคิดเห็น’ ว่าในสถานการณ์ที่คล้ายกับวิกฤติธนาคารระดับภูมิภาคในเดือนมีนาคม บิตคอยน์อาจทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (defensive asset) ได้เช่นกัน

ภาพรวมของตลาดคริปโตโลกกำลังสำรวจทิศทางใหม่ ภายใต้แรงกดดันด้านเศรษฐกิจ ทว่าอีเธอเรียมกลับโดดเด่นในฐานะจุดศูนย์กลางของการฟื้นตัวของเม็ดเงินลงทุนผ่าน ETP ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่จะช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของการกลับเข้ามาของทุนสถาบันในระยะต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1