อีเธอเรียม(ETH) พุ่งทะลุระดับราคา 4,000 ดอลลาร์อีกครั้ง สะท้อนแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง อ้างอิงข้อมูลช่วงเช้าของวันที่ 20 (เวลาเอเชีย) ราคาของอีเธอเรียมปรับตัวขึ้น 3.6% แตะระดับ 4,060 ดอลลาร์ หลังร่วงลงไปอยู่ที่ 3,700 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 นับเป็นการฟื้นตัวประมาณ 10% ภายในไม่กี่วัน
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ตลาดระบุว่า อีเธอเรียมสามารถรักษาระดับราคาสัปดาห์ที่ 3,985 ดอลลาร์ไว้ได้อย่างมั่นคง ซึ่งถือเป็นโซนแนวรับสำคัญ และเป็นพื้นที่ราคาที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ด้านคริปโต ‘Rekt Capital’ ให้ความเห็นว่า อีเธอเรียมได้กลับเข้าทดสอบแนวโน้มขาลงเดิมที่เคยทะลุขึ้นไปก่อนหน้านี้ ชี้ว่าเป็นสัญญาณของการกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง
การฟื้นตัวในครั้งนี้ยังถูกมองว่าอาจไม่ใช่แค่การกระเด้งทางเทคนิคทั่วไป แต่เป็นจุดเริ่มต้นของรูปแบบขาขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 นักวิเคราะห์อีกคน ‘Merlijn the Trader’ อธิบายว่า บนกราฟรายเดือนของอีเธอเรียมกำลังก่อตัวเป็นรูปแบบ ‘bullish pennant’ หรือ ธงขาขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณของการไต่ระดับทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่ภาพลวงตาในตลาด
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ ‘Sykodelic’ ระบุว่า “ไม่มีสัญญาณของตลาดหมีเลยในตอนนี้ และโครงสร้างขาขึ้นชัดเจนอย่างยิ่ง” โดยเขาชี้ว่าการเคลื่อนไหวของกราฟตัดกับความวิตกของนักลงทุนในตลาด บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ นักเทคนิคชื่อดัง จอห์น โบลินเจอร์(John Bollinger) ผู้คิดค้นเครื่องมือวิเคราะห์ ‘โบลินเจอร์แบนด์’ ยังออกมาระบุว่า เขาพบสัญญาณ ‘W bottom’ หรือ ฐานตัว W ซึ่งเป็นรูปแบบ ‘กลับตัวสู่ขาขึ้น’ ที่ค่อนข้างหายาก โดยนักเทรด ‘Satoshi Flipper’ กล่าวเสริมว่า “นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่โบลินเจอร์ออกมาพูดถึงอีเธอเรียม และทุกครั้งที่เขาพูด มันมักจะตรงกับจุดต่ำสุดรุ่นต่อรุ่น ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่น่ามองข้าม”
อีกปัจจัยที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของอีเธอเรียมคือ มูลค่าสัญญาเปิด(Open Interest หรือ OI) ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดอุณหภูมิของตลาด พบว่าลดลงจากระดับสูงสุดไปแล้วถึง 45% เท็ด ฟิโลว์ส(Ted Pillows) นักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้ความเห็นว่า “แม้อีเธอเรียมยังต่ำกว่าจุดสูงสุดอยู่ราว 20% แต่การที่ OI ลดลงแสดงว่าบรรยากาศการเก็งกำไรได้คลายตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณบวก” พร้อมเสริมว่า “จากข้อมูลนี้ ช่วงราคา 5,500–6,000 ดอลลาร์สามารถเป็นไปได้โดยไม่ต้องเร่งเกินไป”
เมื่อรวมปัจจัยจากสัญญาณกราฟ เทคนิคต่าง ๆ มุมมองจากนักวิเคราะห์ และภาวะจิตวิทยาตลาด ดูเหมือนว่าอีเธอเรียมจะกลับมาเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ของกระแสภายในตลาดคริปโตอีกครั้งในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0