เฟเดริโก คาร์โรเน่(Federico Carrone) หนึ่งในนักพัฒนาหลักของอีเธอเรียม(ETH) ออกโรงเตือนว่า ‘อิทธิพลที่มากเกินไปของภาคเอกชน’ อาจกลายเป็น ‘ความเสี่ยงปลายหาง (tail risk)’ สำหรับระบบนิเวศของอีเธอเรียม โดยเฉพาะกรณีของบริษัทลงทุนชื่อดังอย่างแพราไดม์(Paradigm) ซึ่งเขาระบุว่า กำลังขยายอิทธิพลจนมีแนวโน้มสร้างความเสี่ยงในระดับมหภาค
เมื่อวันที่ 26 คาร์โรเน่โพสต์ผ่านบัญชี X ส่วนตัวในชื่อ ‘@fede_intern’ ระบุว่า แม้ว่าแพราไดม์จะเคยสร้าง ‘คุณูปการมีคุณค่า’ ต่อชุมชนอีเธอเรียม แต่เป้าหมายสูงสุดของพวกเขายังคงเป็น ‘การแสวงหาผลกำไรและอำนาจ’ ซึ่งสถานการณ์ที่บริษัทแบบนี้สามารถมีบทบาทกำหนดทิศทางระบบนิเวศได้ อาจกลายเป็น ‘ปัจจัยเสี่ยง’ ที่ไม่ควรมองข้าม
เขาย้ำว่า ตนเองได้เคยกล่าวถึง ‘ความเสี่ยงแฝง’ จากแพราไดม์มาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน และเชื่อว่า ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า คำเตือนนี้จะเริ่มชัดเจนขึ้นในสายตาของผู้คน คาร์โรเน่ยังเน้นว่า ระบบนิเวศของอีเธอเรียมควรยึดมั่นในหลักการ ‘การกระจายอำนาจโดยเน้นเทคโนโลยี’ และตรวจสอบผลกระทบจากผู้เล่นที่ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องโครงสร้างการตัดสินใจ
ในปัจจุบัน แพราไดม์เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของโปรเจกต์สำคัญหลายรายการในระบบนิเวศของอีเธอเรียม รวมถึงมีบทบาทอย่างแข็งขันในการพัฒนาเทคโนโลยีและนำเสนอนโยบาย แต่การแสดงความเห็นของคาร์โรเน่ในครั้งนี้ เน้นให้เห็นว่าเบื้องหลัง ‘การมีส่วนร่วม’ ดังกล่าวอาจมากกว่าที่เห็น และการถกเถียงอย่างโปร่งใสภายในชุมชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสมดุลในระยะยาว
**ความคิดเห็น** บทวิเคราะห์ของคาร์โรเน่สะท้อนความกังวลในชุมชนคริปโตว่า หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการสร้างระบบกระจายอำนาจคือการบริหารจัดการอิทธิพลของผู้มีอำนาจทางการเงิน ที่แม้จะช่วยผลักดันเทคโนโลยีได้ แต่ก็มาพร้อมกับเงื่อนไขและแรงจูงใจที่อาจสวนทางกับจุดยืนของชุมชนคริปโตดั้งเดิม
ความคิดเห็น 0