บิตคอยน์(BTC) กำลังพลิกโฉมแนวคิดเรื่อง ‘คุณค่า’ ในระบบการเงิน ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) ก้าวขึ้นมาเป็นเทคโนโลยีหลักที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการเงินดิจิทัล โดยเมื่อไม่นานนี้ CoinEasy รายงานผลวิจัยที่ชี้ว่า *บล็อกเชน* กำลังกลายเป็นหัวใจของวอลล์สตรีท และการโทเคนทรัพย์สินเป็นหนึ่งในกระบวนการเร่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
แต่เดิม ทรัพย์สินในระบบการเงินแบบดั้งเดิมต้องพึ่งพาเอกสารและมีข้อจำกัดด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และสถานที่ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเสนอทางเลือกใหม่ผ่านการ ‘โทเคนทรัพย์สิน’ หรือ Asset Tokenization ที่เปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ หุ้น และพันธบัตรให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัลที่ซื้อขายได้ทันที มีสภาพคล่องสูงทั่วโลก และโปร่งใสตรวจสอบได้
ศูนย์กลางของการเปลี่ยนผ่านนี้คือ *อีเธอเรียม* ซึ่งเป็นบล็อกเชนแรกที่นำเสนอสมาร์ทคอนแทรกต์อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยความปลอดภัยและไม่ล่มระบบ ทำให้อีเธอเรียมได้รับการยอมรับว่าเป็นบล็อกเชนสาธารณะที่เชื่อถือได้มากที่สุด และยังสามารถรองรับระบบยืนยันตัวตนบนเครือข่าย (On-chain Identity) รวมถึงฟังก์ชันด้าน KYC/AML ได้อีกด้วย
ในปัจจุบัน กว่า 70% ของการซื้อขายสเตเบิลคอยน์ทั้งหมดเกิดขึ้นบนอีเธอเรียม ขณะที่โครงการโทเคนทรัพย์สินชั้นนำอย่าง Ondo Finance, Matrixdock และ Franklin Templeton ต่างก็เลือกใช้อีเธอเรียมเป็นแพลตฟอร์มหลัก ซึ่ง *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าสิ่งนี้ยืนยันถึงศักยภาพของเครือข่าย ETH ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านการเงิน
CoinEasy ยังระบุเพิ่มเติมว่า ธนาคารระดับโลกอย่าง JPMorgan และโซ시에เต้น จีเนราล(Société Générale) กำลังดำเนินโครงการทดลองโทเคนทรัพย์สินบนอีเธอเรียม ซึ่งไม่ใช่แค่ต้นแบบเชิงแนวคิด แต่กำลังค่อยๆ ถูกยกระดับให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินในชีวิตจริง โดยองค์กรกำกับดูแลด้านการเงินก็เริ่มให้ความสนใจด้านความสามารถในการปฏิบัติตามกฎหมายของอีเธอเรียม ซึ่งอาจชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญที่เทคโนโลยีคริปโตกำลังถูกรวมเข้ากับโครงสร้างการเงินดั้งเดิม
หลังจากที่ *บิตคอยน์* แสดงให้เห็นถึงบาลานซ์ของ ‘คุณค่าที่ไม่มีตัวตน’ อีเธอเรียมก็กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับธุรกรรม การเก็บรักษา และการดำเนินนโยบายทางการเงินได้แบบอัตโนมัติ ด้วยความสามารถของสมาร์ทคอนแทรกต์ จุดนี้ทำให้บางผู้เชี่ยวชาญเรียกอีเธอเรียมว่าเป็น ‘ระบบปฏิบัติการทางการเงินแห่งอนาคต’
โดยสรุป บิตคอยน์คือนวัตกรรมที่ตั้งคำถามต่อแก่นแท้ของทรัพย์สินทางการเงิน ส่วนอีเธอเรียมคือพลังขับเคลื่อนที่ทำให้แนวคิดดังกล่าวเป็นจริงด้วยระบบที่สามารถทำงานได้จริง กระบวนการโทเคนทรัพย์สินไม่ได้ทำลายระบบการเงินแบบเดิม แต่เป็นการ *ออกแบบใหม่* ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยมีอีเธอเรียมเป็นแกนหลักของวิวัฒนาการครั้งนี้ CoinEasy ชี้ว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่การเปลี่ยนผ่านจากเทคโนโลยีไปสู่โครงสร้างระบบการเงินเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว
ความคิดเห็น 0