วิตาลิก บูเทริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) ได้เปิดตัวโปรโตคอลพิสูจน์เชิงศูนย์รู้ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘GKR (Goldwasser–Kalai–Rothblum)’ ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับ *ประสิทธิภาพการประมวลผล* อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดต้นทุนและเพิ่ม *ความสามารถในการขยายตัวของเครือข่ายอีเธอเรียม*
จากข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านบล็อกส่วนตัวของบูเทริน เมื่อวันที่ 24 เขาได้อธิบายว่า GKR ใช้แนวคิดที่แตกต่างจากระบบพื้นฐาน ZK-STARK เดิม โดยไม่จำเป็นต้องคำนวณแฮชหลายร้อยครั้งในทุกกระบวนการ แต่เน้นเฉพาะ ‘*ข้อมูลนำเข้าและผลลัพธ์*’ ทำให้สามารถละเว้นการประมวลผลในส่วนกลางทั้งหมด ส่งผลให้ประหยัดเวลาและพลังงานได้มาก พร้อมเสริมด้วยเทคนิคคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า ‘*ซัมเช็ก (sumcheck)*’ ซึ่งใช้การตรวจสอบความถูกต้องของการคำนวณผ่านจุดข้อมูลสุ่มเพียงบางส่วน แทนที่จะอ้างอิงทั้งชุดข้อมูล
แม้โปรโตคอล GKR จะไม่มีฟีเจอร์ด้าน *การปกป้องข้อมูลส่วนตัว* อยู่โดยตรง แต่สามารถนำไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอย่าง ZK-SNARK หรือ ZK-STARK เพื่อยกระดับความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มรูปแบบ วิตาลิกยังได้ทดลองแสดงศักยภาพผ่านการพิสูจน์การคำนวณของแฮชอัลกอริทึมโพไซดอน(Poseidon2) จำนวนหลายล้านครั้งแบบคู่ขนาน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่กว้างขวางในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในด้าน *การยืนยันธุรกรรมบนบล็อกเชน* หรือแม้แต่การตรวจสอบผลการคำนวณของ AI
ผลการทดลองบ่งชี้ว่า GKR มี *ประสิทธิภาพเหนือกว่า STARK เดิมสูงสุดถึง 15 เท่า* และสามารถเร่งความเร็วได้เกือบ 10 เท่าจากความจริง ซึ่งถือเป็นก้าวที่น่าจับตามองในการลดข้อจำกัดด้านทรัพยากร และเสริมความแข็งแรงพื้นฐานให้แก่การใช้งานแบบ ZK โรลอัปบนอีเธอเรียม
ความเคลื่อนไหวของบูเทรินในครั้งนี้ยังสะท้อนแนวคิดเดียวกับที่เขาเพิ่งยกย่องกลุ่ม ‘Lean อีเธอเรียม ทีม’ ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา zkVM เวอร์ชันเบาที่เน้นโครงสร้างขั้นต่ำ นอกจากนี้เขายังเคยแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนนโยบายรอถอนสเตกขั้นต่ำ 45 วันโดยให้เหตุผลว่า *ความมั่นคงของเครือข่ายควรสำคัญกว่าความสะดวกสบายในระยะสั้น*
การเปิดตัว GKR จึงไม่เพียงเพิ่มความ *เร็ว ต้นทุนต่ำ และรองรับการเติบโตของระบบ* เท่านั้น แต่ยังอาจกลายเป็นแกนสำคัญในการพัฒนาระบบพิสูจน์ผลการคำนวณสำหรับ *วงการแมชชีนเลิร์นนิง* และระบบประมวลผลทั่วไปนอกบล็อกเชนในอนาคตอีกด้วย
ความคิดเห็น 0