สเปซเอ็กซ์ ภายใต้การนำของอีลอน มัสก์ ดำเนินการโอน *บิตคอยน์(BTC)* จำนวนมากอีกครั้ง หลังจากไม่มีความเคลื่อนไหวมานานกว่า 3 เดือน การย้ายสินทรัพย์ในครั้งนี้เรียกความสนใจจากตลาดได้อีกครั้ง พร้อมจุดประเด็นเรื่องกลยุทธ์การถือครองคริปโตของบริษัท
จากข้อมูลบนเชน การโอนครั้งนี้มีมูลค่าราว 268 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,729 ล้านบาท โดยกระเป๋าเงินที่ขึ้นต้นด้วย 'bc1qq' และ 'bc1qj7' ได้รับ 1,187 BTC และ 1,208 BTC ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองกระเป๋ายังคงอยู่ในสถานะไม่เคลื่อนไหว ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า การโอนอาจเป็นแค่การปรับโครงสร้างภายใน ขณะที่อีกฝ่ายเชื่อว่าอาจเป็นสัญญาณของการวางแผนดูแลทรัพย์สินดิจิทัลใหม่
เหตุการณ์นี้คล้ายกับกรณีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งในตอนนั้นมีการย้ายบิตคอยน์จำนวนมากเข้าสู่ระบบดูแลสินทรัพย์ของ *คอยน์เบส พรายม์ คัสโตดี (Coinbase Prime Custody)* โดยนักวิเคราะห์บางคนจึงมองว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ น่าจะเป็นการจัดการสินทรัพย์ภายในระหว่างกระเป๋าเงินของบริษัท แต่ความบังเอิญด้าน ‘ขนาด’ และ ‘จังหวะเวลา’ ยังคงสร้างความสนใจอย่างมากในตลาด
ราคาบิตคอยน์ ณ ตอนนี้อยู่ที่ราว 107,800 ดอลลาร์ หรือราว 14.97 ล้านบาทต่อ 1 BTC โดยลดลงมา 2.5% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้จิตวิทยาการลงทุนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันทำหน้าที่เป็นแนวต้านทางเทคนิค กลายเป็นอุปสรรคต่อแนวโน้มขาขึ้น ความเคลื่อนไหวของบริษัทขนาดใหญ่จึงกลายเป็น ‘แรงกระเพื่อมทางการตลาด’ ที่มีนัยสำคัญอย่างมาก
นักวิเคราะห์บางรายจับตาว่า บริการดูแลสินทรัพย์แบบสถาบัน เช่นคอยน์เบส พรายม์ อาจอยู่เบื้องหลังการย้ายบิตคอยน์ดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดจากการจัดระเบียบพอร์ต, การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงิน หรือแม้แต่การเตรียมพร้อมเพื่อเสริมสภาพคล่อง หากสุดท้ายพบว่ามีการขายล็อตใหญ่เกิดขึ้นจริง ความเป็นไปได้ที่ระบบอัลกอริธึมจะตอบสนองและส่งผลให้เกิด **ความผันผวนระยะสั้น** ก็มีความเป็นไปได้สูง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณการขายจากกระเป๋าที่รับโอน หรือการย้ายไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายใด ๆ จึงยังถือว่าเป็น ‘การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์’ ที่ไม่กระทบต่อแรงซื้อขายในตอนนี้ นักลงทุนยังคงเฝ้าจับตาทุกการย้ายเงินในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงินของกระดานซื้อขาย ย่อมเรียกปฏิกิริยาจากตลาดได้ทันที
การย้าย *บิตคอยน์* ครั้งใหญ่ของสเปซเอ็กซ์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ในแง่ของการลงทุนเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหนึ่งใน ‘สินทรัพย์ทางการเงินกระแสหลัก’ ที่หลายบริษัทรวมเข้าไว้ในแผนงานด้านการเงินของตนอย่างจริงจัง และนี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคริปโตเคอร์เรนซีมีบทบาทมากขึ้นในระบบการเงินโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0