คาล ดาเรีย(Kaal Dhairya) นักพัฒนาหลักของชิบะอินุ(SHIB) ได้ออกมาเรียกร้องต่อสาธารณะอีกครั้งให้แฮกเกอร์ที่เคยเจาะระบบบริดจ์ชิบาเรียม(Shibarium) ยอมจำนน พร้อมเสนอ ‘เงินรางวัล’ ล่าสุด เพื่อแลกกับทรัพย์สินที่สูญหายไปจากเหตุการณ์แฮก
เหตุการณ์โจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน จากการใช้เทคนิคแฟลชโลนเจาะเข้าไปยังบริดจ์ชิบาเรียม โดยแฮกเกอร์ได้ปลอมแปลงการถือครองเพื่อเพิ่มอิทธิพลในระบบของผู้ตรวจสอบ (Validator) และยื่นคำร้องขอถอนเงินที่ผ่านการแก้ไข ส่งผลให้ขโมยสินทรัพย์ไปได้รวมราว 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงอีเธอเรียม(ETH), ชิบะอินุ(SHIB), โรร์(ROAR) และเคไนน์ไฟแนนซ์(KNINE)
หนึ่งในผู้ถูกกระทบอย่าง เคไนน์ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์ลิควิดสเตกิงของชิบะอินุ ได้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดด้วยการใส่แอดเดรสของแฮกเกอร์ลงในบัญชีดำอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โทเคน KNINE ที่ถูกขโมยไปกว่า 2.48 แสนล้านโทเคนไม่สามารถนำไปซื้อขายได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อกระตุ้นให้แฮกเกอร์ยอมคืนเงิน ทางโปรเจกต์ได้เสนอเงินรางวัล เริ่มต้นที่ 5 ETH (ราว 1 ล้านบาท) และเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ได้เพิ่มเป็น 20 ETH (ราว 4 ล้านบาท)
ดาเรียได้ใช้แพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิมคือทวิตเตอร์) ส่งข้อความไปยังแฮกเกอร์แบบตรงไปตรงมา เรียกร้องให้อีกฝ่าย “ได้สติ” และ “เอาเงินไปซะเถอะ” เพื่อเลือกทางออกที่สร้างสรรค์มากกว่าเดิม คล้ายกับการเชิญชวนให้แฮกเกอร์กลายเป็น ‘ไวท์แฮต’ หรือผู้เจาะระบบเพื่อช่วยปรับปรุงความปลอดภัย
หากแฮกเกอร์ตอบรับข้อเสนอ เงินและโทเคนที่สูญหายจะสามารถกลับคืนระบบได้ และทางเคไนน์ไฟแนนซ์สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงโอกาสในการกู้คืนราคาของโทเคน KNINE ก็จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ทีมพัฒนาชิบะอินุได้ปรับปรุงระบบบริดจ์เพื่อเสริมความปลอดภัย โดยติดตั้งฟังก์ชันกรองธุรกรรมจากแอดเดรสที่น่าสงสัย และเพิ่มระยะเวลาการถอน BONE โทเคนเป็นอย่างน้อย 7 วัน เพื่อเปิดทางให้ทีมตรวจสอบความผิดปกติได้ก่อนการดำเนินการ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ dRPC.org เพื่อพัฒนา RPC อย่างเป็นทางการเวอร์ชันใหม่ พร้อมวางแผนเปิดตัวคู่มือรับมือภัยคุกคามเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำ
เป็นที่น่าจับตาว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนความพยายามของระบบชิบะอินุในการขยับจากแนวรับแบบเดิมสู่แนวรุกเชิงรุกในการป้องกันภัยไซเบอร์ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าแฮกเกอร์จะตอบรับข้อเสนออย่างไรในท้ายที่สุด
                    
                                            
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                                                                                    
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
                                                
ความคิดเห็น 0