โนช รีเสิร์ช(Notch Research) เผยรายงานล่าสุดเน้นย้ำถึงการที่บริษัทการเงินอย่าง โรบินฮู้ด กำลังเดินหน้าในการพัฒนา *เลเยอร์ 2 บล็อกเชน(L2)* ของตนเอง พร้อมชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนด้านเทคนิคที่บริษัทเหล่านี้ต้องเผชิญ โดยเสนอ ‘Aligned Layer’ เป็นโซลูชันสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการพิสูจน์ข้อมูลภายใต้โครงสร้างแบบ ZK โรลอัป ซึ่งกำลังกลายเป็น ‘ความได้เปรียบทางการแข่งขัน’ สำหรับบริการที่มีการทำธุรกรรมในปริมาณมาก
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน โรบินฮู้ดประกาศแผนเปิดให้ลูกค้าในยุโรปสามารถซื้อขาย *หุ้นโทเคนและ ETF แบบ 24 ชั่วโมง* พร้อมกำหนดแผนการสร้าง *เชน L2 ของตัวเอง* บนพื้นฐานของ อาร์บิทรัม(Arbitrum) โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการเข้าถึงตลาดทุนสำหรับผู้ใช้นอกสหรัฐฯ และเชื่อมโยงบริการทางการเงินแบบดั้งเดิมกับโลก Web3 อย่างไร้รอยต่อ โนช รีเสิร์ช ระบุว่า ทิศทางนี้เป็นผลจากความต้องการควบคุมการโอนสินทรัพย์, การถือสินทรัพย์เอง (self-custody) ไปจนถึงการสร้างระบบนิเวศทางบริการแบบครบวงจร
อย่างไรก็ตาม การสร้าง L2 บนบล็อกเชนไม่ใช่เรื่องง่าย บริษัทยังคงต้องรับมือกับความท้าทายทางเทคนิคในหลายด้าน อาทิ ระบบการพิสูจน์, โครงสร้างบริดจ์, การชำระธุรกรรม, การดำเนินโหนด, มาตรการรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะในกรณีของ ZK โรลอัปซึ่งมีต้นทุนการพิสูจน์ที่สูงมาก เช่น zk-SNARK อาจต้องใช้ก๊าซระดับหลักแสนหน่วย ขณะที่ zk-STARK อาจสูงถึงหลักล้าน Ethereum เองก็สามารถประมวลผลการพิสูจน์ได้เพียงไม่กี่สิบครั้งต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับบริการเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่
เพื่อลดข้อจำกัดดังกล่าว Aligned ถูกนำเสนอเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยแบ่งเบาภาระการพิสูจน์ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ‘เลเยอร์ตรวจสอบ (Verification Layer)’ ที่นำผลลัพธ์จากผู้ตรวจสอบหลายรายมาสรุปผ่านลายเซ็น BLS ก่อนยื่นเข้าสู่ Ethereum และ ‘บริการรวมการพิสูจน์ (Proof Aggregation)’ ที่รวบรวมหลาย ZK พิสูจน์ให้เหลือเพียงชุดเดียว ผลลัพธ์จากการทดสอบจริงแสดงให้เห็นว่าสามารถลดค่าน้ำมันก๊าซต่อครั้งได้ถึง *99%* และประมวลผลธุรกรรมได้ *หลายพันรายการต่อวินาที*
Aligned ยังพัฒนาไปไกลกว่าการเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านการพิสูจน์ ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม RaaS (*Rollup-as-a-Service*) ที่ใช้งานง่ายและออกแบบมาเพื่อองค์กรโดยเฉพาะ ผ่านเครื่องมือ Ethrex ซึ่งเป็น execution client แบบโมดูลาร์ที่เขียนด้วยภาษา Rust ทำให้บริษัทสามารถพัฒนาเชน L2 ของตนเองโดยไม่ต้องเข้าใจเทคนิคเชิงลึก ทางเลือก Wallet-as-a-Service ที่มาพร้อมการรวมกระเป๋าและบัญชีอัจฉริยะ ถือเป็นการลดอุปสรรคในการเริ่มต้นใช้งานสำหรับนักพัฒนาอีกด้วย
Aligned ยังมีการใช้งานจริงในหลายภาคส่วน รวมถึงบริการภาครัฐ โดยแพลตฟอร์ม *Sovra* จากละตินอเมริกา ได้สร้าง SovraChain โดยอิงกับ Ethrex และใช้บริการรวมการพิสูจน์ของ Aligned ในการประมวลผลข้อมูลประจำตัวประชาชนหลายล้านรายการอย่างรวดเร็วและประหยัด SovraChain มีข้อดีคือสามารถรักษาความปลอดภัยระดับ Ethereum พร้อมรองรับการประยุกต์ใช้ในระบบราชการที่ต้องการการประมวลผลแบบเรียลไทม์
สาเหตุที่บริษัทต่าง ๆ ต้องการสร้างบล็อกเชนบน *อีเธอเรียม(ETH)* ก็เพราะในเครือนี้มีทุกอย่างที่องค์กรต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักพัฒนา, สภาพคล่อง, เหรียญเสถียร และความมั่นคงด้านความปลอดภัย อีกทั้ง ZK โรลอัปยังสร้างความได้เปรียบเหนือวิธีแบบ Optimistic Rollup เนื่องจากสามารถชำระบัญชีได้รวดเร็วกว่าและให้ความสามารถในการตรวจสอบทางบัญชีและงบการเงินได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการนำไปใช้งานเชิงธุรกิจ
โนช รีเสิร์ช สรุปว่า Aligned ไม่ได้เป็นเพียงบริการโครงสร้างพื้นฐานด้านการพิสูจน์เท่านั้น แต่กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มสมบูรณ์แบบที่มั่นใจได้สำหรับการให้บริการทางการเงินบนอีเธอเรียม ทั้งในรูปแบบ RaaS, การรวบรวมการพิสูจน์, โปรโตคอลแบบเชื่อมต่อข้ามเชน และโซลูชันกระเป๋าสตางค์ด้วยทิศทางการลดต้นทุน, ยกระดับเทคโนโลยี และลดกำแพงการเข้าสู่ระบบนิเวศสำหรับภาคธุรกิจ ถือเป็นการเปิดประตูใหม่ให้กับการสร้างบริการระดับองค์กรที่เชื่อถือได้ และพร้อมใช้งานบนอีเธอเรียมอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0