เจย์สัน คาลาคานิส นักลงทุนระดับแถวหน้าและเป็นนักลงทุนรายแรกของอูเบอร์ ออกมา *วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา* ถึงแนวทาง ‘กลยุทธ์เน้นบิตคอยน์’ ของบริษัทสเตรเทจี(Strategy) และไมเคิล เซย์เลอร์ โดยประกาศชัดว่า *เขาจะไม่ลงทุนในหุ้นของบริษัทนี้* ไม่ว่าราคาหุ้นจะดิ่งลงมากแค่ไหน
คาลาคานิสกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ว่า แม้หุ้นของสเตรเทจีจะร่วงหนัก เขาก็ยังจะไม่แตะต้อง พร้อมย้ำว่า หากบริษัทประสบภาวะการเงินวิกฤตจากราคาบิตคอยน์(BTC)ที่ตกต่ำ *‘ไม่ควรได้รับการช่วยเหลือทางการเงินใดๆ’*
เขายังเน้นย้ำจุดยืนเดิมที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าจะลงทุนในบิตคอยน์ก็ควร ‘ซื้อโดยตรง’ แทนที่จะผ่านบริษัทอย่างสเตรเทจี เพราะตามมุมมองของเขา กลยุทธ์ดังกล่าวมีความซับซ้อนเกินความจำเป็น และมี *โอกาสล้มเหลวสูงถึง 95%*
คาลาคานิสยังตั้งข้อสงสัยต่อการที่สเตรเทจีพยายาม *บรรยายโมเดลการดำเนินงานของตัวเองว่าเป็น ‘ดัชนีเชิงสร้างสรรค์’ และ ‘โครงสร้างทุนแบบล้ำสมัย’* โดยชี้ว่า นักลงทุนควรตรวจสอบให้ละเอียด เพราะมันอาจกลายเป็น *กลยุทธ์อัจฉริยะ หรือในทางตรงกันข้ามก็อาจไม่มีอะไรเลยก็ได้*
คำให้สัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก **The Wall Street Journal** เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับ *บริษัทด้านการเงินในโลกคริปโตที่เริ่มเผชิญแรงสั่นคลอน* ซึ่งสะท้อนถึงภาวะไม่มั่นคงของอุตสาหกรรมในช่วงนี้ โดยเฉพาะกับหุ้นของสเตรเทจีที่ราคาทรุดลงถึง 45% ทำให้บริษัทต้องแก้เกมด้วยการ *ปรับเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเพื่อดึงดูดนักลงทุน*
ในอีกด้านหนึ่ง แม้ว่า *จิม ชาโนส* — นักลงทุนชื่อดังสายชอร์ต — เพิ่งยุติการถือครองสถานะชอร์ตกับหุ้นของสเตรเทจี ซึ่งบางฝ่ายเห็นว่าอาจสะท้อนถึง *โอกาสฟื้นตัวของตลาด* แต่เมื่อราคาบิตคอยน์ยังเคลื่อนไหวในแดนลบ *บริษัทที่ถือครองคริปโตจำนวนมากก็ยังต้องดิ้นรนกับปัญหาการระดมทุน*
ความคิดเห็นของคาลาคานิสจึงเป็น *สัญญาณเตือนสำคัญต่อบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะใช้คริปโตเป็นกลยุทธ์ทางการเงิน* เนื่องจากการถือบิตคอยน์ในปริมาณสูงอาจกลายเป็น *ภาระต่อทั้งบริษัทและผู้ถือหุ้น* ได้ทุกเมื่อหากตลาดเข้าสู่ขาลง
ความคิดเห็น 0