หุ้นของบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์(BTC) ในปริมาณมากเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัว หลังจากช่วงปรับฐานจบลง โดยนักลงทุนรายใหญ่อย่าง เจมส์ ชาโนส(James Chanos) ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ได้ประกาศปิดสถานะการขายชอร์ตหุ้นสตราทีจี และตำแหน่งซื้อบิตคอยน์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 3 ชาโนสโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียว่า เขาได้ปิดสถานะการขายชอร์ตหุ้นของบริษัทที่นำโดย ไมเคิล เซย์เลอร์ อย่างสตราทีจี พร้อมกับปิดตำแหน่งบิตคอยน์พร้อมกันทันทีที่ตลาดเปิด สตราทีจีถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ถือครอง *บิตคอยน์มากที่สุดในโลก* ด้วยจำนวน 641,205 BTC
ปิแอร์ โรชาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ‘더 Bitcoin Bond Company’ แสดงความคิดเห็นว่า “ช่วงตลาดหมีของบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว” ซึ่งตีความได้ว่า สถานการณ์กำลังเข้าสู่แนวโน้มเชิงบวก
ชาโนสระบุว่า ราคาหุ้นของสตราทีจีได้ลดลงประมาณ *50%* จากระดับสูงสุดในปี 2025 และอัตราส่วนมูลค่าสุทธิต่อราคาหุ้น (mNAV) ลดลงมาอยู่ที่ *1.23 เท่า* ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับระดับพื้นฐานมาก เขาเผยว่า “แค่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา mNAV ยังอยู่ที่ 2.0 เท่า แต่ปัจจุบันลดลงต่ำกว่า 1.25 เท่า จึงเป็นเหตุผลที่เหมาะสมสำหรับการปิดสถานะ”
เขายังชี้ว่า ส่วนเกินมูลค่าของบริษัท(หรือ Premium) หลังหักมูลค่าบิตคอยน์ที่ถือครองก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยจากประมาณ *7 แสนล้านดอลลาร์* ในเดือนกรกฎาคม เหลือเพียง *1.5 แสนล้านดอลลาร์* ในปัจจุบัน ซึ่งช่วยลบข้อถกเถียงเรื่องราคาที่ถูกประเมินเกินจริง
แม้เขาจะยอมรับว่าหากสตราทีจีออกหุ้นเพิ่มทุนอีกในอนาคต mNAV อาจลดลงต่อไปอีก แต่เขายืนยันว่า "กลยุทธ์การลงทุนครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จโดยรวม"
ด้านโรชาร์ดยังเสริมว่า “สัญญาณแบบนี้คือปัจจัยพื้นฐานสำหรับการพลิกกลับของตลาด” โดยการปิดสถานะขายชอร์ตบ่อยครั้งจะถูกมองว่าเป็น *สัญญาณลงจุดต่ำสุด* ของราคา นักลงทุนจำนวนมากจึงเริ่มจับตาดูว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดหรือไม่
ความคิดเห็น 0