Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

XRP Tundra ชูผลตอบแทนสเตกกิ้ง 20% ท้าชิงบัลลังก์ดีไฟจากอีเธอเรียม(ETH)

XRP Tundra ชูผลตอบแทนสเตกกิ้ง 20% ท้าชิงบัลลังก์ดีไฟจากอีเธอเรียม(ETH) / Tokenpost

อีเธอเรียม(ETH)แม้จะครองฐานะเป็นแกนกลางของระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ ‘ดีไฟ (DeFi)’ มาเป็นเวลานาน แต่ความซับซ้อนในการใช้งานและ ‘ค่าธรรมเนียม’ ที่พุ่งสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ผู้ใช้จำนวนมากค่อยๆ ถอยห่างออกไป ล่าสุดโปรเจกต์ ‘XRP Tundra’ ถูกจับตามองว่าอาจเป็น ‘ทางเลือกใหม่’ ของผู้ใช้ในระบบดีไฟ และได้รับความสนใจตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการพรีเซล

XRP Tundra เป็นโครงการดีไฟที่สร้างบนโครงสร้าง ‘ดูอัลเชน’ จากทั้ง XRP เลดเจอร์และโซลานา(SOL) โดยขณะนี้เข้าสู่เฟสที่ 11 ของการพรีเซลแล้ว โครงการนี้มาพร้อมสโลแกน “คริปโตเพื่อทุกคน” โดยมุ่งเน้นเรื่อง *การเข้าถึงง่าย* และ *ผลตอบแทน* ที่ดึงดูดใจ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนที่อีเธอเรียมยังไม่สามารถตอบได้อย่างสมบูรณ์

ในเชิงเปรียบเทียบ การเป็นผู้ตรวจสอบหรือ ‘Validator’ บนเครือข่ายอีเธอเรียมจำเป็นต้องวางหลักประกันขั้นต่ำถึง 32 ETH หรือประมาณ 4.2 ล้านบาท ยังไม่นับรวมความจำเป็นด้านฮาร์ดแวร์และการตั้งค่าเชิงเทคนิคซับซ้อนทั้งหมด ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมระบบส่วนใหญ่มักเป็นสถาบันหรือนักลงทุนมืออาชีพ ต่างจากแนวคิดแบบ ‘ไร้ศูนย์กลาง’ ที่วาดฝันไว้ ในขณะที่ XRP Tundra เลือกใช้ระบบที่เรียกว่า ‘ครายโอ วอลต์ (Cryo Vault)’ สำหรับการสเตกกิ้ง ซึ่งเป็นโมเดลให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง *20% ต่อปี* โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษใดๆ

ระบบ Cryo Vault ใช้สมาร์ตคอนแทรกต์แทนตัวตรวจสอบแบบเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถฝากโทเคนและตรวจสอบรายได้แบบเรียลไทม์ได้ทันทีผ่านตัวสำรวจเครือข่ายของโซลานาและ XRP ฟีเจอร์นี้เน้นทั้ง ‘ความโปร่งใส’ และ ‘เปิดกว้าง’ ในการเข้าร่วม ซึ่งถือว่าแตกต่างอย่างชัดเจนจากแนวทางของอีเธอเรียมปัจจุบัน

โครงการยังมีการออกแบบระบบโทเคนสองแบบ ได้แก่ ‘TUNDRA-S’ ซึ่งใช้บนเครือข่ายโซลานาทำหน้าที่เกี่ยวกับยูทิลิตี้และผลตอบแทน และ ‘TUNDRA-X’ บน XRP เลดเจอร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมด้านการบริหารและจัดการสภาพคล่อง โมเดลนี้ถูกวางไว้เพื่อ *ลดข้อจำกัด* ของเชนเดี่ยว และเพิ่มมิติของ *การขยายตัวรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย*

ในพรีเซลปัจจุบัน TUNDRA-S มีราคา 0.183 ดอลลาร์ (ประมาณ 245 บาท) ต่อโทเคน พร้อมโบนัส TUNDRA-X มูลค่า 0.0915 ดอลลาร์ (ประมาณ 123 บาท) ทำให้การเข้าร่วมเพียงครั้งเดียวสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลหลัก 2 สายพร้อมกัน – เป็นจุดเด่นที่เน้น “ประสิทธิภาพในการลงทุน”

XRP Tundra ยังมีการพัฒนาโครงสร้างเทคโนโลยี ‘GlacierChain’ ควบคู่กัน โดยเป็นระบบเลเยอร์ 2 ที่รองรับการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ระหว่าง XRP และโซลานา พร้อมรองรับสมาร์ตคอนแทรกต์และกลไกการกำกับดูแลแบบไร้ศูนย์กลาง ความเรียบง่ายในการใช้งานและการเชื่อมต่อยังถูกชูเป็นจุดเหนือกว่าระบบเลเยอร์ 2 ของอีเธอเรียม

ในด้านความปลอดภัย โครงการนี้ผ่านการตรวจสอบโค้ดสมาร์ตคอนแทรกต์โดยบริษัทบล็อกเชนชื่อดังหลายแห่ง อาทิ Cyberscope, SolidProof และ FreshCoins ข้อมูลของทีมผู้ก่อตั้งรวมถึงกระเป๋าเงินที่ใช้ในการดำเนินโครงการก็ได้รับการยืนยันตัวตนผ่านใบรับรอง KYC จาก Vital Block – *เพิ่มระดับความเชื่อมั่น* ให้แก่ผู้ร่วมลงทุน

จนถึงขณะนี้ การพรีเซลของ XRP Tundra สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 33.4 ล้านบาท โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนหลักมาจากชุมชนคริปโตของโซลานาและ XRP ที่กำลังมองหาทางออกจากต้นทุนสูงในอีเธอเรียม

XRP Tundra ได้เปิดเผยกระบวนการพรีเซลทั้งหมดบนบล็อกเชนแบบเรียลไทม์ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ผู้ร่วมสเตกกิ้งก่อนใคร กลยุทธ์ที่ผสมผสานระหว่างการเข้าร่วมที่โปร่งใส ยืดหยุ่น และรองรับผลตอบแทนที่จับต้องได้อย่างชัดเจน ให้ภาพของทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์การลงทุนในยุคดีไฟที่มีการแข่งขันสูง

คำถามคือ โครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อ *ลดอุปสรรคด้านการเข้าถึงและยกระดับความปลอดภัย* นี้ จะสามารถรักษาโมเมนตัมและสร้างพื้นที่ยืนในสนามหลักอย่างเมนเน็ตได้จริงหรือไม่? นักลงทุนและผู้ใช้งานต่างจับตามองความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1