บิตคอยน์(BTC) ร่วงหนักแตะ 95,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสู่ขาขึ้นระยะยาว

บิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดคริปโตเกิดความวิตกอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่านี่อาจไม่ใช่เพียงแค่การ‘ปรับฐาน’ระยะสั้น แต่เป็นการเข้าสู่ ‘เฟสใหม่’ ของตลาดที่อาจเปิดทางให้เกิดการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นในระยะต่อไป

ตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังพบว่าปริมาณสัญญาฟิวเจอร์สแบบไม่มีกำหนด ที่ใช้ ‘เลเวอเรจสูง’ ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าบางแพลตฟอร์มยังคงให้บริการเลเวอเรจสูงถึง 200 เท่า แต่ก็เห็นได้ชัดว่านักลงทุนส่วนใหญ่เน้นกลยุทธ์ ‘ตั้งรับ’ มากกว่าการเสี่ยง ขณะเดียวกันกองทุน ETF ที่อิงกับบิตคอยน์ซึ่งซื้อขายในตลาดวอลล์สตรีทก็มีการเทขายในปริมาณมหาศาล ส่งผลให้แรงขายในระบบสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ราคาบิตคอยน์ร่วงจากระดับประมาณ 125,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง 95,000 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเตือนว่าไม่ควรมองแนวโน้มราคาที่ร่วงลงในเชิงลบมากเกินไป รายงานล่าสุดจาก Forbes Digital ระบุว่า บิตคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากสินทรัพย์เทคโนโลยี มาเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ตลาดการเงินแบบสถาบัน’ อย่างเต็มรูปแบบ เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่าบิตคอยน์อาจแตะจุดต่ำสุดที่ 94,000 ดอลลาร์ในรอบนี้ ก่อนจะพุ่งแตะ 170,000 ดอลลาร์ได้ภายในปี 2026 ความเห็นนี้สะท้อนว่า แรงสั่นสะเทือนในตลาดครั้งนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ความเจ็บปวดจากการถูกสถาบันดูดกลืน’ ไม่ใช่สัญญาณล่มสลาย

อีกปัจจัยที่มีผลคือ ‘วาฬบิตคอยน์’ ซึ่งถือเหรียญจำนวนมากตั้งแต่ช่วงปี 2009–2015 เริ่มเทขายเพื่อทำกำไร แม้ว่าการขายลักษณะนี้เคยสร้างแรงกระแทกต่อตลาด แต่ปัจจุบันกลุ่มสถาบันใหญ่ในวอลล์สตรีทมีศักยภาพดูดซับเหรียญส่วนนี้ได้ดีขึ้นมาก นักวิเคราะห์บางคนถึงกับมองว่า ‘การขายทำกำไร’ ของวาฬกลุ่มเก่าช่วยลดความเสี่ยงสะสม และส่งผลดีต่อสุขภาพตลาดในระยะยาว

นโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะมีการลดเพิ่มอีกในเดือนธันวาคม โดยมีบางกรรมการเฟดสนับสนุนให้ลดถึง 0.5% ถ้าวัฏจักรดอกเบี้ยเริ่มเป็นมิตรกับสภาพคล่อง ก็อาจหนุนแรงซื้อในตลาดคริปโตกลับมาอีกระลอก

โดยรวมแล้ว การปรับฐานของบิตคอยน์ครั้งนี้อาจไม่ใช่เพียงความผันผวนระยะสั้น แต่สะท้อน ‘ช่วงเปลี่ยนผ่านโครงสร้าง’ ที่สำคัญ ทั้งจากการเข้าสู่ระบบการเงินแบบสถาบัน การเข้าร่วมของกองทุนขนาดใหญ่ ตลอดจนการปรับตัวของนักลงทุนยุคแรก หากมองในเชิงกลยุทธ์ การลดลงอย่างรุนแรงอาจเป็น ‘แรงสะสม’ เตรียมรับรอบขาขึ้นในระยะยาวอีกครั้ง ‘ความคิดเห็น’ หากมองในมุมนี้ ผู้ถือครองบิตคอยน์ในปัจจุบันอาจไม่ควรตื่นตระหนกเกินไป แต่ควรจับตาภาพรวมตลาดและปรับกลยุทธ์รับมือตามเหมาะสม