SEC สหรัฐฯ ประกาศแผนกฎใหม่ปี 2025 ชี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคริปโต

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ประกาศแผนปรับปรุงกฎระเบียบสำหรับปี 2025 ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสภาพแวดล้อมด้านการกำกับดูแลของอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ แผนใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎระเบียบที่ไม่ชัดเจนในอดีต เปิดทางให้อุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ เข้าสู่กรอบกฎหมายที่เป็นระบบและมีความโปร่งใสมากขึ้น

ที่ผ่านมา หน่วยงานหลายแห่งในสหรัฐฯ เช่น SEC, คณะกรรมการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์(CFTC), คณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ(FTC) และเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน(FinCEN) ต่างมีบทบาทในการกำกับดูแลคริปโต ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางกฎหมายนั้นเต็มไปด้วยความสับสน และยากต่อการตีความว่าอะไรถูกกฎหมายหรือไม่

แผนปรับปรุงประจำปี 2025 ของ SEC จึงมีเป้าหมายเพื่อขจัดความไม่ชัดเจนดังกล่าว ด้วยโครงสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ที่คำนึงถึงการส่งเสริมนวัตกรรม, การสร้างเงินทุน, ประสิทธิภาพของตลาด และการคุ้มครองนักลงทุนอย่างสมดุล โดยกำหนดให้มีการวางเกณฑ์ที่ชัดเจนในการออกและขายสินทรัพย์ดิจิทัล, อนุญาตให้สกุลเงินดิจิทัลจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์, ลดภาระการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทมหาชน และจัดระเบียบตัวกลางด้านคริปโตอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ส่วนที่น่าสนใจอีกประการคือ แนวคิด ‘*Safe Harbor*’ ซึ่ง SEC ตั้งใจจะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ยกเว้นความรับผิดในช่วงเริ่มต้น เพื่อช่วยลดความไม่แน่นอนของโครงการเกิดใหม่ โดยจะระบุให้ชัดเจนว่าโทเคนจะเข้าข่ายเป็น ‘หลักทรัพย์’ เมื่อใด และผู้ออกควรเปิดเผยข้อมูลอะไรบ้าง

นอกจากนี้ SEC ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตให้ บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอื่น ๆ สามารถซื้อขายได้ผ่านระบบซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการรับรองเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป ซึ่ง *ความคิดเห็น* มองว่าอาจเป็นการยกระดับการคุ้มครองนักลงทุน และพาแพลตฟอร์มเทรดที่อยู่นอกระบบบางแห่งเข้าสู่กรอบกฎหมาย

ในส่วนของตัวกลาง เช่น โบรกเกอร์และผู้รับฝากสินทรัพย์ กำลังจะได้รับเกณฑ์กำกับดูแลที่ชัดเจนกว่าที่ผ่านมา ซึ่งช่วยสนับสนุนการขยายตัวของสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเข้าสู่ตลาดคริปโต

ความสำเร็จของแผนนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ และความสามารถในการปรับใช้ร่วมกับกฎระเบียบของประเทศอื่น แม้จะเป็นแผนในระดับชาติ แต่หากดำเนินการอย่างราบรื่น อาจส่งผลให้เกิดการกำหนดมาตรฐานสากลในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากนี้ การแยกแยะอย่างชัดเจนระหว่างโครงการที่อยู่ภายใต้กฎหมายกับโครงการที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้น ซึ่ง *ความคิดเห็น* ชี้ว่า โครงการที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อาจได้รับโอกาสมากขึ้น ทั้งในด้านการร่วมมือกับสถาบันทางการเงินและการระดมทุน ในขณะที่โครงการที่ขาดความโปร่งใสอาจถูกจำกัดมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับวงการคริปโต ไม่เพียงแต่ในสหรัฐฯ แต่ทั่วโลก แผนงานของ SEC ครั้งนี้อาจเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนทิศทางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ