ผู้เชี่ยวชาญชี้ บิตคอยน์(BTC) กำลังเปลี่ยนโครงสร้างตลาด แม้ราคานิ่ง แต่แรงขายซ่อนอยู่พุ่ง

แม้ว่า *บิตคอยน์(BTC)* จะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่หลายคนคุ้นเคย แต่ผู้เชี่ยวชาญในตลาดบางรายกลับมองว่าภายใต้ความนิ่งเงียบนั้น โครงสร้างของตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ล่าสุด *เจมส์ เช็ค(James Check)* นักวิเคราะห์ข้อมูล ‘ออนเชน’ ให้สัมภาษณ์ว่า ตลาดปัจจุบันแม้จะดูคล้ายกับรอบก่อน ๆ แต่จริง ๆ แล้วการใช้เลเวอเรจ ราคาเฉลี่ยในการเข้าซื้อของนักลงทุน และพฤติกรรมการขาย ล้วนเปลี่ยนไปในทุกมิติ

เจมส์เผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เขาเคยถูกถามว่า "ขณะนี้คือช่วงตลาดกระทิงหรือหมี?" ซึ่งคำตอบของเขาก็คือ สถานการณ์ในตลาด *บิตคอยน์* ขณะนี้ มีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้ามาซื้อในจุดราคาที่สูงกว่ารอบก่อน นั่นหมายความว่านักลงทุนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าสู่ ‘โซนกำไร’ ได้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ตลาดยังคงถูกปกคลุมด้วย ‘ความระมัดระวัง’

กลุ่มนักลงทุนระยะยาว ซึ่งมักถูกมองว่า “ไม่ขาย” นั้น เช็คมองว่า ไม่เป็นความจริงในรอบนี้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลออนเชนที่เผยให้เห็นว่า เหรียญที่ถูกถือครองไว้หลายเดือนถึงหลายปี กำลังทยอยถูกส่งกลับเข้าสู่ตลาดในอัตราที่เร็วผิดปกติ ซึ่งปริมาณเหรียญเหล่านี้ถือเป็น ‘แรงขายที่มองไม่เห็น’ และได้ส่งผลต่อทิศทางราคาชัดเจนในช่วงหลัง แม้การเพิ่มขึ้นของอุปทานจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ตลาดกลับเพิ่งเริ่มจับตา

สำหรับประเด็นเรื่อง ETF ในตลาดแลกเปลี่ยน, การถือครอง *บิตคอยน์* ของ *ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor)* และบริษัทต่าง ๆ เช็คชี้ว่า แม้ทั้งหมดจะมีบทบาทในตลาด แต่ก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของกิจกรรมการเทรดทั้งหมด แก่นสำคัญของ *บิตคอยน์* กลับอยู่ที่ ‘ความสามารถในการรองรับสภาพคล่องขนาดใหญ่’ พร้อมย้ำว่า บิตคอยน์ในขณะนี้ ‘เติบโตจนสามารถดูดซับเงินทุนจำนวนมากได้’ โดยไม่สร้างความผันผวนเท่ากับในรอบก่อน

เช็ดยังปิดท้ายด้วยการแสดงมุมมองระยะกลางถึงปี 2026 ว่าการลงทุนควรหลีกเลี่ยงทั้งความ ‘มองโลกในแง่ดีเกินไป’ หรือ ‘มองลบเกินเหตุ’ พร้อมกระตุ้นให้จับตาปัจจัยสำคัญ เช่น การเข้ามาของรัฐในฐานะผู้ใช้บล็อกเชน, กลยุทธ์กระจายสินทรัพย์ และความเสี่ยงเชิงโครงสร้างระยะยาวที่อาจไม่ได้เป็นข่าวใหญ่ แต่มีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดในระยะยาวอย่างมาก

*ความคิดเห็น:* การมองตลาดผ่านเพียงแค่ ‘ราคา’ อาจไม่เพียงพอแล้วในตลาดที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูล ‘ออนเชน’ กำลังกลายเป็นเครื่องมือบอกทิศทางแนวโน้มที่สำคัญ โดยเฉพาะในการประเมินแรงกดดันระหว่าง ‘ผู้ถือระยะยาว’ และ ‘แรงขายที่ซ่อนอยู่’