ธนาคารสเบอร์แบงก์ของรัสเซียพิจารณาเปิดให้บริการ ‘สินเชื่อโดยใช้คริปโตเป็นหลักประกัน’ สะท้อนการเดินหน้าของภาคการเงินรัสเซียในการพัฒนาเครื่องมือการลงทุนรูปแบบใหม่ที่อิงกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ TASS อนาโตลี โปปอฟ รองประธานบริหารของธนาคารสเบอร์แบงก์ ได้เปิดเผยว่าธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการให้บริการสินเชื่อโดยใช้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นหลักประกัน พร้อมทั้งระบุว่า ‘มีความหวังว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมในเร็ว ๆ นี้’ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่อยู่ระหว่างจัดทำ
ในปีนี้ ธนาคารสเบอร์แบงก์ได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วมากกว่า 160 รายการ ครอบคลุมทั้งอสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงพันธบัตรเชิงโครงสร้างที่อิงราคาบิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH) และกองทุนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีมูลค่าการจัดการรวมกว่า 1.5 พันล้านรูเบิล (ราว 313 ล้านบาท)
ในฝั่งภาครัฐ รัสเซียอยู่ระหว่างจัดทำกฎหมายเพื่อ *รับรองธุรกรรมคริปโตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย* ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2026 โดยตลาดหลักทรัพย์มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการซื้อขายคริปโตภายใต้แผนงานที่รัฐบาลกำหนดไว้
ตามข้อมูลล่าสุด ภายใต้ข้อเสนอกฎระเบียบ นักลงทุนทั่วไปจะสามารถลงทุนคริปโตได้ก็ต่อเมื่อผ่านการอบรมและสอบผ่านเท่านั้น พร้อมกำหนดเพดานลงทุนไม่เกิน 300,000 รูเบิลต่อปี (ราว 580,000 บาท) และต้องทำธุรกรรมผ่านตัวกลางที่ขึ้นทะเบียน ขณะที่นักลงทุนสถาบันสามารถลงทุนได้อย่างเสรีมากกว่า แต่ *เหรียญที่เน้นความเป็นนิรนาม* ยังคงถูกห้ามใช้อยู่
อนาโตลี อัคซาคอฟ ประธานคณะกรรมการการเงินของสภาดูมา ยืนยันจุดยืนของรัฐบาลว่า ‘คริปโตจะไม่ถูกยอมรับเป็นสื่อกลางชำระเงินในประเทศ’ แต่สามารถใช้เป็น ‘สินทรัพย์เพื่อลงทุนได้เท่านั้น’ โดยธุรกรรมการชำระเงินทุกประเภท *ต้องใช้สกุลรูเบิล* ตามหลักการของรัฐบาล
ตลาดคริปโตของรัสเซียเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีปริมาณซื้อขายรวมระหว่างเดือนกรกฎาคม 2024 ถึงมิถุนายน 2025 สูงถึง 376.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 543 ล้านล้านบาท) แซงหน้าสหราชอาณาจักรซึ่งมีปริมาณ 273.2 พันล้านดอลลาร์ ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีปริมาณซื้อขายคริปโตมากที่สุดในยุโรป การโอนเงินขนาดใหญ่เกิน 10 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นถึง 86% จากปีก่อนหน้า และอัตราการใช้งานดิฟายเพิ่มขึ้นกว่า 3.5 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน
ในด้านสเตเบิลคอยน์ ‘A7A5’ ซึ่งเชื่อมโยงกับรูเบิล มีมูลค่าตลาดทะลุ 500 ล้านดอลลาร์แล้ว กลายเป็น *สเตเบิลคอยน์ที่ไม่อิงดอลลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก* และยังคงเติบโตท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก
การขุดเหรียญคริปโตได้รับความสนใจจากรัฐบาลในฐานะแหล่งรายได้ต่างประเทศ โดยมักซิม โอเรชคิน ข้าราชการเศรษฐกิจระดับสูงเสนอว่า *กิจกรรมการขุดควรจัดเป็นกิจกรรมการส่งออก* เนื่องจากเหรียญที่ได้จะถูกนำไปขายยังต่างประเทศ รัสเซียถือครองมากกว่า 16% ของ *แฮชเรตทั่วโลก* ในช่วงฤดูร้อน และรายได้จากการขุดคาดว่าจะอยู่ที่ราววันละ 1 พันล้านรูเบิล (ประมาณ 209 ล้านบาท) เอลวีรา นาบิอุลลินา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย เคยแสดงความเห็นว่า ‘กิจกรรมขุดคริปโตมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินรูเบิล’
ธนาคารสเบอร์แบงก์ไม่ได้หยุดเพียงแค่การออกผลิตภัณฑ์ลงทุน แต่ยังพัฒนาโครงข่ายบล็อกเชนอิสระของตนเอง พร้อมระบบสัญญาอัจฉริยะเพื่อรองรับบริการทางการเงินที่ล้ำสมัย โดยในเดือนมีนาคม ปีนี้ ได้เปิดตัว ‘โทเคนอิงราคาคโกโก้’ สำหรับนักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะ อิงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เป็นโกโก้จริง น้ำหนัก 1 กิโลกรัม และทำการเทรดเป็นเวลา 4 เดือนแบบจำกัดจำนวน
โปปอฟกล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกำลังทำงานร่วมกับธนาคารกลางเพื่อผลักดันกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และสนใจในการทำหน้าที่เป็น *ผู้ให้สภาพคล่องและมาร์เก็ตเมกเกอร์* บนแพลตฟอร์มซื้อขายที่ได้รับการรับรองในอนาคต
ร่างกฎหมายฉบับสมบูรณ์คาดว่าจะผ่านภายในปี 2026 และจะเริ่มบทลงโทษสำหรับบริการกลางซื้อขายที่ไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป การเคลื่อนไหวของสเบอร์แบงก์และผู้เล่นหลักในตลาดกำลังสร้างแรงผลักดันให้รัสเซียก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับโลกในอนาคตอันใกล้
‘ความคิดเห็น’: สถานการณ์ในรัสเซียแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจากการควบคุมเข้มข้นไปสู่การออกกฎหมายควบคุมที่ยอมรับคริปโตในฐานะ *สินทรัพย์เพื่อการลงทุน* อย่างแท้จริง และธนาคารสเบอร์แบงก์คือผู้เล่นสำคัญที่กำลังเตรียมปูเส้นทางให้กับประเทศในสนามการเงินยุคใหม่
ความคิดเห็น 0