XRP ร่วง 12% หลังฮ่องกงตัดออกจากรายชื่อเหรียญคริปโตที่อนุมัติ

หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของฮ่องกงเพิ่งประกาศรายชื่อเหรียญคริปโตที่ได้รับการอนุมัติ แต่กลับไม่มีชื่อของริปเปิล(XRP) อยู่ในนั้น ส่งผลให้ราคาของ XRP ร่วงลงกว่า 12% การประกาศครั้งนี้รวมถึงเหรียญสำคัญอย่างบิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH) และเชนลิงก์(LINK) แต่การที่ XRP ถูกตัดออกจากรายชื่อได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักลงทุน

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง(SFC) ได้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยอนุมัติเฉพาะสินทรัพย์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ล่าสุด SFC ได้ออกใบอนุญาตให้แพลตฟอร์มบางแห่งเช่น แฟลคอนเอ็กซ์(FalconX) และ YAX เพื่อกำหนดระเบียบที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม XRP กลับไม่ถูกรวมอยู่ในรายชื่อเหรียญที่ผ่านการอนุมัติ

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าสาเหตุหลักของเรื่องนี้น่าจะมาจากคดีความของริปเปิลกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ(SEC) ที่กำลังดำเนินอยู่ ข้อพิพาทเกี่ยวกับการพิจารณาสถานะของ XRP ว่าเป็นหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ ซึ่งอาจทำให้หน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกงเลือกใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง

หลังการประกาศจาก SFC ตลาดเกิดปฏิกิริยาทันที ราคาของ XRP ร่วงลง 12% แตะระดับ $2.45 ขณะที่มูลค่าคงค้างในตลาดฟิวเจอร์ส(Open Interest) ก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดของปีนี้ที่ 3.52 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.1 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนมกราคมที่ 7.62 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 11.49 ล้านล้านบาท)

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค XRP กำลังซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน(EMA) ที่ $2.48 และเส้นค่าเฉลี่ย 21 วันที่ $2.54 ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงเพิ่มเติม ประกอบกับความไม่แน่นอนทางกฎหมาย นักลงทุนจึงเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเหรียญนี้

ในอุตสาหกรรมคริปโต การเคลื่อนไหวของฮ่องกงอาจสร้างผลกระทบต่อมุมมองของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศอื่น ๆ เนื่องจากการตัดสินใจเกี่ยวกับ XRP ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับประเด็นทางกฎหมายโดยตรง ทำให้ผลลัพธ์ของคดีระหว่างริปเปิลและ SEC อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อแนวโน้มของ XRP ในตลาดโลก