ราคาของริปเปิล(XRP) ร่วงลงมากกว่าครึ่งจากจุดสูงสุดล่าสุด ท่ามกลางกระแสการนำเหรียญเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเร่งให้แนวโน้มขาลงรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนนำโดยสถาบันยังคงเพิ่มการถือครองผ่าน ETF สร้างภาพรวมของตลาดที่แตกต่างกันไป
ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ริปเปิลเริ่มเข้าสู่ช่วงปรับฐานอย่างหนัก โดยจากราคาสูงสุดที่ 3.66 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.26 ล้านบาท) ล่าสุดลดลงมากกว่า 50% มาอยู่ที่ราว 1.85 ดอลลาร์ (ราว 2.66 ล้านบาท) ขณะที่การพยายามฟื้นตัวในวันที่ 29 ถูกสกัดด้วยแรงขายอย่างหนักอีกครั้งบริเวณ 1.91 ดอลลาร์
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนอย่าง CryptoQuant รายงานว่า ริปเปิลกำลังเผชิญกับแรงขายจำนวนมาก โดยเฉพาะเหรียญที่ถูกส่งเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนภาวะที่ ‘นักลงทุนพร้อมขาย’ สูงขึ้น
ข้อมูลจาก CryptoQuant ยังระบุว่าตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม เป็นต้นมา ปริมาณเหรียญริปเปิลที่ไหลเข้าสู่ตลาดอย่างไบแนนซ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแตะระดับสูงสุดที่ 116 ล้านเหรียญในวันที่ 19 ธันวาคม เทียบกับก่อนหน้าซึ่งอยู่ในช่วงเฉลี่ย 35–50 ล้านเหรียญต่อวัน
‘การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดังกล่าว’ เป็นผลจากการเทขายสองกลุ่มผสมกัน—หนึ่งคือ นักลงทุนระยะยาวที่เริ่มทำกำไรจากรอบขาขึ้น และอีกกลุ่มคือ นักลงทุนระยะสั้นที่ตัดขาดทุนเนื่องจากความกลัว ทำให้เกิดแรงกดดันทางราคามากขึ้น
*ความคิดเห็นจาก CryptoQuant ชี้ว่า หากกระแสนี้ยังไม่หยุดลง หรือลุกลามต่อไป การฟื้นตัวของริปเปิลอาจล่าช้า และมีโอกาสที่จะเกิดการร่วงลงอีก หากไม่มีแรงซื้อเข้ามาใหม่จากภายนอก*
แม้ราคาจะย่อตัวรุนแรง แต่เงินลงทุนจากสถาบันยังหลั่งไหลเข้าสู่ ETF ของริปเปิล ซึ่งสะท้อนการมองบวกในระยะยาว โดยเฉพาะ ETF แบบ ‘ถือสินทรัพย์จริง (Spot)’ ที่เริ่มซื้อขายในสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา
จากข้อมูลของ SoSoValue ณ วันที่ 26 ธันวาคม ยอดเงินไหลเข้าสะสมใน ETF ของริปเปิลสูงถึง 1.14 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.63 หมื่นล้านบาท) ในขณะที่มูลค่าทรัพย์สินรวมภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.79 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือว่าเติบโตเร็วกว่า ETF ของบิตคอยน์(BTC) หรืออีเธอเรียม(ETH) ในช่วงเวลาเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเคลื่อนไหวนี้สะท้อน *‘กลยุทธ์การลงทุนระยะยาว’* ที่ไม่ให้น้ำหนักกับราคาช่วงสั้น แต่ให้ความสำคัญกับศักยภาพด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายของริปเปิล โดยมองว่า ETF เป็นช่องทางลงทุนที่มีความปลอดภัยและได้รับการกำกับดูแล
ด้านข้อมูลเชิงเทคนิค ราคาของริปเปิลในปัจจุบันเข้าใกล้พื้นที่ ‘ขายมากเกินไป’ (Oversold) ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้เกิดแรงดีดกลับทางเทคนิคได้ในระยะกลาง อย่างไรก็ตาม หากปริมาณเหรียญที่เข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนยังคงสูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ความเป็นไปได้ที่แนวรับใหม่จะต่ำลงก็ยังมีอยู่
ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังไม่ชัดเจน ทิศทางของริปเปิลในช่วงกลางถึงระยะสั้นจะถูกกำหนดโดย *การลดลงของปริมาณเหรียญที่เข้าสู่ตลาด* และ *การคงอยู่ของแรงซื้อจากสถาบัน* ว่าจะฝ่ายใดที่ยืนระยะได้เหนือกว่าในท้ายที่สุด
ความคิดเห็น 0