บิตคอยน์(BTC) รักษาระดับเหนือ 98,000 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์มองสัญญาณเชิงบวก

บิตคอยน์(BTC) ยังคงแสดง ‘สัญญาณเชิงบวก’ ด้วยการรักษาระดับราคาที่แข็งแกร่งเหนือ 98,000 ดอลลาร์ระหว่างช่วงเปิดตลาดวอลล์สตรีทเมื่อวันที่ 6 ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งแม้จะยังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 100,000 ดอลลาร์ได้ก็ตาม

ข้อมูลจาก เทรดดิงวิว(TradingView) และ คอยน์เทเลกราฟ มาร์เก็ตโปร(Cointelegraph Markets Pro) ชี้ให้เห็นว่า บิตคอยน์ยังคงอยู่ในช่วงแนวรับที่แข็งแกร่งและมีความผันผวนต่ำ เทรดเดอร์บางรายมองว่านี่เป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ ‘เจลเล’(Jelle) แสดงความเห็นว่า "บิตคอยน์กำลังสร้างฐานราคาที่มั่นคงโดยมีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง" พร้อมเสริมว่า "เป้าหมายที่สำคัญยังคงอยู่ที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ และหากทะลุผ่านไปได้ อาจเห็นการทดสอบแนวต้านใหม่ที่ 110,000 ดอลลาร์"

ขณะที่ ‘แดน คริปโต เทรดส์’(Daan Crypto Trades) เทรดเดอร์อีกคนหนึ่งระบุว่า “ตลาดสปอตยังมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง” และกล่าวเพิ่มเติมว่า "ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บิตคอยน์สามารถรักษาระดับราคาสูงไว้ได้ คือการซื้อสะสมโดยผู้เล่นรายใหญ่ เช่น ETF บิตคอยน์แบบสปอต และบริษัท ไมโครสตราเทจี(MSTR) ซึ่งอาจสร้างภาวะ ‘อุปทานตึงตัว’ ในตลาด"

ตัวชี้วัดด้านเทคนิคอย่าง ‘ดัชนี RSI’ ของบิตคอยน์ ก็กำลังส่งสัญญาณที่เป็นบวก นักวิเคราะห์ ‘เรกต์ แคปิทอล’(Rekt Capital) อธิบายว่า “ดัชนี RSI รายวันของบิตคอยน์กำลังสร้างรูปแบบขาขึ้น และมีโอกาสที่ราคาจะทะลุแนวต้านในไม่ช้า” พร้อมระบุว่า "ตราบใดที่ RSI ยังคงรักษาระดับแนวรับเอาไว้ โอกาสของการปรับตัวขึ้นก็ยังคงแข็งแกร่ง"

อย่างไรก็ตาม บริษัทเทรดดิ้ง QCP แคปิทอล เตือนว่าบิตคอยน์อาจยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยมหภาค เช่น ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน QCP ตั้งข้อสังเกตว่า แม้บิตคอยน์จะสามารถรักษาระดับเหนือ 90,000 ดอลลาร์ไว้ได้ แต่ตลาดยังไม่มีตัวเร่งที่ชัดเจนสำหรับการพุ่งขึ้นทันที พร้อมแนะนำว่า “ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ระมัดระวัง พร้อมสร้างแผนการจัดการความเสี่ยงให้ดี”

โดยสรุป ทิศทางของบิตคอยน์ในอนาคตจะขึ้นอยู่กับว่าราคาจะสามารถทะลุแนวต้าน 100,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่ รวมถึงปัจจัยมหภาคอื่นๆ แม้จะมีแนวโน้มเป็นบวกจากการซื้อโดยสถาบันและสัญญาณทางเทคนิค แต่นักลงทุนยังคงต้องเฝ้าระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น