เซินเจิ้นเปิดตัวกองทุน AI มูลค่า 10,000 ล้านหยวน สนับสนุนสตาร์ทอัพและโครงสร้างพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 12 ตามรายงานของ CoinGeek เมืองเซินเจิ้นของจีนได้ประกาศเปิดตัวกองทุนขนาดใหญ่ มูลค่า 10,000 ล้านหยวน (ประมาณ 51,000 ล้านบาท) เพื่อส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์(AI) นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวของรัฐบาลจีนในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้แข่งขันได้ระดับโลก
ในงานแถลงข่าว รัฐบาลเซินเจิ้นเปิดเผยว่า กองทุนดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ครอบคลุมทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ โดยจะให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพและบริษัทด้านเทคโนโลยีสูงสุดถึง 10 ล้านหยวน (ประมาณ 51 ล้านบาท) ในรูปแบบเงินอุดหนุน นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านการประมวลผลข้อมูลของบริษัทในอัตราที่สูงกว่า 50%
ขณะเดียวกัน เซินเจิ้นยังผลักดันให้ AI ถูกบูรณาการเข้ากับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข การผลิต การจัดการภัยพิบัติ ความปลอดภัย และบริหารเมือง ซึ่งปัจจุบันมีโครงการ AI แล้วกว่า 200 โครงการ และมีเป้าหมายเพิ่มอีก 100 โครงการในเร็วๆ นี้
นอกเหนือจาก AI เซินเจิ้นยังเป็นผู้นำด้าน ‘เงินหยวนดิจิทัล’ ซึ่งเป็นโครงการสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีน (CBDC) อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการใช้ CBDC สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน
ท่ามกลางการแข่งขันด้าน AI ระหว่างประเทศ จีนเร่งเดินหน้าตั้งแพลตฟอร์มวิจัยขนาดใหญ่ และขยายสายการผลิตชิป AI ซึ่งกองทุน AI ใหม่นี้คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่(LLM) และอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ
อีกประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงในวงการคือ ความท้าทายด้าน ‘จริยธรรมและกฎระเบียบ’ ที่มาพร้อมการเติบโตของ AI จากรายงานของเลอโนโว(Lenovo) พบว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มงบลงทุนใน AI มากกว่าสามเท่า พร้อมให้ความสำคัญกับมาตรฐานจริยธรรม และความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์(MSFT) ยังเดินหน้ารุกตลาดเอเชียด้วยแผนลงทุน 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 79,000 ล้านบาท) ในมาเลเซีย เพื่อติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI และบล็อกเชน
ในมุมของอุตสาหกรรม เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของ AI โดยเฉพาะด้านความถูกต้องของข้อมูล ทำให้มีแนวโน้มว่าบล็อกเชนอาจกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม AI ในอนาคต
ความคิดเห็น 0