อีเธอเรียม(ETH) เสี่ยงการชำระบัญชีมหาศาล หากราคาร่วงต่ำกว่า 1,857 ดอลลาร์

อีเธอเรียม(ETH) อาจเผชิญแรงกดดันหนักหากราคาลดลงอีก 20% ซึ่งอาจนำไปสู่การชำระบัญชีขนาดใหญ่ในตลาดการเงินกระจายศูนย์ (DeFi)

เควิน รัชเชอร์ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มกู้ยืมบล็อกเชน RAAC เตือนว่าหากราคา ETH ร่วงลงถึง 1,857 ดอลลาร์ อาจเกิดการชำระบัญชีมูลค่า 136 ล้านดอลลาร์ และหากลดลงต่อไปถึง 1,780 ดอลลาร์ อาจมีการชำระบัญชีเพิ่มเติมอีก 117 ล้านดอลลาร์ ในกรณีรุนแรงที่สุด หากราคาดิ่งสู่ระดับ 1,500 ดอลลาร์ การชำระบัญชีในตลาดกู้ยืม DeFi อาจแตะ 336 ล้านดอลลาร์

รัชเชอร์ชี้ว่า สาเหตุหลักของความเสี่ยงนี้มาจากแพลตฟอร์ม DeFi ใหม่ชื่อ ‘Sky’ ของเมกเกอร์ดาว(MakerDAO) ซึ่งมีสินเชื่อที่ใช้ ETH เป็นหลักประกันมูลค่า 130 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาผันผวน อาจนำไปสู่การชำระบัญชีจำนวนมาก และอาจสร้างแรงกดดันต่อทั้งตลาด นอกจากนี้ การชำระบัญชีแบบเป็นลูกโซ่มักเกิดขึ้นในช่วงตลาดผันผวน ส่งผลให้นักลงทุนเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้น

เขายังเสนอทางออกโดยการนำสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่ เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือทองคำ มาใช้เป็นหลักประกันในระบบ DeFi เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ ETH เป็นหลักประกันเพียงอย่างเดียว พร้อมระบุว่าสินทรัพย์เหล่านี้มีเสถียรภาพมากกว่าและช่วยลดความเสี่ยงจากเลเวอเรจที่สูง

ขณะเดียวกัน ราคาของ ETH ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลดลงกว่า 15% และกำลังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA) ขณะที่ดัชนี RSI อยู่ที่ระดับ 31 ซึ่งเข้าใกล้เขต ‘ขายมากเกินไป’ นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าราคาอาจทดสอบแนวรับที่ 1,600 ดอลลาร์ ก่อนหาจุดกลับตัว

ท่ามกลางแนวโน้มขาลง นักเทรดบางรายกำลังปรับกลยุทธ์พอร์ตการลงทุน โดยเปลี่ยนจาก ETH ไปยังอัลท์คอยน์ที่มีโอกาสทำกำไรได้ดีกว่า อเล็กซ์ ครูเกอร์ นักเทรดชื่อดัง แนะนำว่าการลดสัดส่วน ETH และลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในช่วงตลาดขาลงนี้