อุตสาหกรรมเกษตรทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’, ‘อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง(IoT)’ และ ‘บล็อกเชน BSV’ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของการผลิตทางการเกษตร ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดินเสื่อมโทรม และความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
บริษัท อะกริเทค(Agritech LLC) ผู้ให้บริการโซลูชัน ‘สมาร์ทฟาร์ม’ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังดำเนินโครงการ ‘ไวน์ยาร์ดเทค(VineyardTech)’ เพื่อนำ AI และบล็อกเชนมาปรับใช้กับการเพาะปลูกองุ่น ระบบ AI ของโครงการสามารถวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศและดินเพื่อกำหนดแผนการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังช่วยคาดการณ์ความเป็นไปได้ของโรคพืช ทำให้อุตสาหกรรมไวน์สามารถลดการใช้สารเคมีได้ และส่งเสริมการผลิตองุ่นคุณภาพสูง
เทคโนโลยี IoT ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ไวน์ยาร์ดเทคใช้เซ็นเซอร์ความชื้นและระบบตรวจวัดสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เมื่อตรวจพบว่าความชื้นในดินลดต่ำกว่าระดับที่กำหนด ระบบจะทำการรดน้ำโดยอัตโนมัติ ลดความสูญเปล่าในการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบภาวะภัยแล้ง เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยลดการใช้น้ำได้มากถึง 30% จากปริมาณการใช้งานปกติ ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งผลผลิตที่มีคุณภาพ
สำหรับบล็อกเชน BSV นั้นมีบทบาทสำคัญในการทำให้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมการเกษตรมีความโปร่งใส ไวน์ยาร์ดเทคใช้เทคโนโลยีนี้ในการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการปลูกองุ่น ตั้งแต่การจัดการดิน การเจริญเติบโตของต้นองุ่น จนถึงกำหนดการเก็บเกี่ยว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถแชร์ให้กับผู้ผลิตไวน์และผู้บริโภคได้โดยง่าย ผ่านการสแกน ‘QR Code’ ทำให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและกระบวนการเพาะปลูกได้ เพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดบริโภค
นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะสวนองุ่นเท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการเพาะปลูกธัญพืชและอุตสาหกรรมนมได้เช่นกัน ในอนาคต คาดว่า ‘เทคโนโลยีเกษตรเชิงแม่นยำ’ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI, IoT และบล็อกเชน จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการสร้างความยั่งยืนให้กับระบบอาหารโลก
ความคิดเห็น 0