ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ผลสำรวจล่าสุดเผยว่า ‘70% ของธุรกรรมการชำระเงินด้วยคริปโตในสหภาพยุโรป(EU) ถูกใช้ในภาคค้าปลีกและอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม’
จากรายงานของแพลตฟอร์มชำระเงินคริปโต ‘อูบิต(Oobit)’ พบว่า การใช้คริปโตในการชำระเงินของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคค้าปลีกและอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม คิดเป็น 70% ของยอดธุรกรรมทั้งหมด รายงานฉบับนี้คำนวณมูลค่าการทำธุรกรรมเป็นดอลลาร์สหรัฐ โดยระบุว่า ยอดชำระเงินเฉลี่ยผ่านแอป Oobit อยู่ที่ ‘8.36 ดอลลาร์’ (ประมาณ 12,200 วอน) ขณะที่ยอดฝากเฉลี่ยอยู่ที่ ‘85 ดอลลาร์’ (ประมาณ 124,100 วอน)
ในแง่ของการกระจายตัวของธุรกรรม พบว่า 26% ของการชำระเงินด้วยคริปโตใน EU ถูกใช้ใน ‘ภาคการท่องเที่ยว’ ครอบคลุมการเข้าพักโรงแรม การเดินทาง และสายการบิน ขณะที่ 1.5% ถูกใช้สำหรับ ‘บริการภาครัฐและการชำระเงินดิจิทัล’ และอีก 1.5% อยู่ในภาค ‘บริการทางการแพทย์และความบันเทิง’
Oobit ชี้ให้เห็นว่า ‘ความชัดเจนของกฎระเบียบ’ และ ‘ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัล’ เป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการใช้คริปโตภายใน EU อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ ‘92% ของธุรกรรมทั้งหมดดำเนินการผ่านสเตเบิลคอยน์ เทเธอร์(USDT)’ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบ MiCA ของสหภาพยุโรปที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ข้อมูลจาก Chainalysis ยังระบุอีกว่า เทรนด์การใช้คริปโตเพื่อการชำระเงินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ใน EU เท่านั้น โดยในปี 2024 อัตราการยอมรับคริปโตใน ‘ภูมิภาคยุโรปตอนกลาง ตอนเหนือ และตะวันตก’ เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ตลาดสเตเบิลคอยน์ในภูมิภาคนี้เติบโตเร็วกว่าในอเมริกาเหนือถึง 2.5 เท่า สำหรับธุรกรรมที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์
‘ธุรกรรมขนาดเล็กและสเตเบิลคอยน์’ กำลังกลายเป็นกรณีการใช้งานหลักของคริปโต ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ ‘เครือข่ายสายฟ้า(Lightning Network)’ ที่ช่วยให้การชำระเงินด้วยบิตคอยน์(BTC) เป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ ‘Crypto Cashback’ ที่ให้รางวัลเป็นคริปโตเมื่อใช้จ่าย ซึ่งกำลังได้รับความนิยม ในปีที่แล้ว นูแบงค์(Nubank) ของบราซิลได้เปิดให้ลูกค้า 100 ล้านคนทั่วละตินอเมริกาสามารถชำระเงินด้วยบิตคอยน์ผ่าน Lightning Network ขณะเดียวกัน IBEX ของเม็กซิโกก็ได้ร่วมมือกับ Grupo Salinas เพื่อเปิดช่องทางชำระค่าอินเทอร์เน็ตด้วยบิตคอยน์
ตลาดสเตเบิลคอยน์ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า มูลค่าตลาดของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้น ‘266%’ จาก 62.8 พันล้านดอลลาร์ (เมษายน 2021) เป็น 229.6 พันล้านดอลลาร์ (มีนาคม 2025) โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมักเผชิญกับความผันผวนของค่าเงินในประเทศ ทำให้สเตเบิลคอยน์กลายเป็น ‘ทางเลือกในการชำระเงิน’ ที่ได้รับความนิยม
อาเธอร์ อาซิซอฟ(Arthur Azizov) ซีอีโอของ B2BINPAY คาดการณ์ว่า ‘อุตสาหกรรมการชำระเงินด้วยคริปโตจะเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลังปี 2025’ โดยระบุว่า หากธนาคารกลางเร่งส่งเสริมการใช้ ‘สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง(CBDC)’ ความต้องการ ‘ตัวเลือกแบบกระจายศูนย์’ อาจเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมคริปโตและสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมอาจมีความร่วมมือที่มากขึ้นกว่าที่เคย
ความคิดเห็น 0