ในช่วงเดือนมีนาคม การหลอกลวงประเภท ‘Address Poisoning’ หรือการปลอมแปลงที่อยู่กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล มีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 1.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 42.5 ล้านบาท) ในตลาดคริปโต
ตามรายงานของบริษัทด้านความปลอดภัยบนบล็อกเชน ไซเบอร์ส(Cyvers) กลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้กลวิธีที่แนบเนียน ด้วยการส่งธุรกรรมมูลค่าเล็กน้อยไปยังที่อยู่กระเป๋าสตางค์ที่มีลักษณะคล้ายของผู้ใช้งานจริง ทำให้เกิดความสับสน เมื่อผู้ใช้ทำธุรกรรมและคัดลอกที่อยู่จากประวัติการทำธุรกรรมโดยไม่ตรวจสอบอย่างละเอียด เงินจึงถูกส่งไปยังที่อยู่ของมิจฉาชีพแทน
เดดี ราวิด ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของไซเบอร์ส กล่าวว่า "เหตุผลที่การหลอกลวงประเภทนี้เพิ่มขึ้น มาจากการที่กระเป๋าสตางค์และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ยังไม่มีระบบตรวจสอบที่อยู่ก่อนทำธุรกรรม หากมีการนำเทคโนโลยีตรวจสอบล่วงหน้ามาใช้ จะสามารถป้องกันการโจมตีแบบฟิชชิ่งได้เป็นจำนวนมาก"
การโจมตีแบบ 'Address Poisoning' กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มีความเสียหายเกิดขึ้นถึง 1.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 63.5 ล้านบาท) และในบางกรณี ความเสียหายแตะระดับหลายสิบล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว นักลงทุนรายหนึ่งเคยส่งบิตคอยน์แรปด์โทเคน(WBTC) มูลค่า 71 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,532 ล้านบาท) ไปยังที่อยู่ที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม กลุ่มมิจฉาชีพที่อยู่เบื้องหลังได้คืนเงินกลับมา เนื่องจากแรงกดดันจากการตรวจสอบของหน่วยงานด้านบล็อกเชน
ฟิชชิ่งเป็นหนึ่งในปัญหาด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดของตลาดคริปโต โดยข้อมูลจากไซเบอร์สระบุว่า ในปี 2024 มีการหลอกลวงประเภท ‘Pig Butchering’ มากกว่า 200,000 ครั้ง บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ส่งผลให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 196,000 ล้านบาท) โดย 75% ของเหยื่อสูญเสียทรัพย์สินไปกว่าครึ่ง และกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงอายุ 30-49 ปี โดยมักเป็นเพศชาย
เมื่อรูปแบบของการหลอกลวงมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ใช้คริปโตจึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง ควรตรวจสอบที่อยู่ก่อนทำธุรกรรมอย่างละเอียด และใช้เทคโนโลยีตรวจสอบล่วงหน้าที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ความคิดเห็น 0