บนบล็อกเชนของ ‘ไฮเปอร์ลิควิด(Hyperliquid)’ มีการเคลื่อนไหวที่พยายามติดตามและบังคับให้มีการล้างพอร์ตของ ‘วาฬ’ หรือนักลงทุนที่ใช้เลเวอเรจสูงในตลาดคริปโต มาร์คัส ธีเลน นักวิเคราะห์จาก 10x รีเสิร์ช ให้ความเห็นว่าพฤติกรรมนี้อาจแพร่กระจายมากขึ้นในอนาคต
ไฮเปอร์ลิควิดเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบตำแหน่งของนักลงทุนรายใหญ่ได้อย่างเปิดเผย ธีเลนระบุว่าสิ่งนี้เอื้อให้เทรดเดอร์บางกลุ่มใช้กลยุทธ์กดดันราคาจนกระทั่งตำแหน่งของนักลงทุนรายใหญ่ถูกบีบให้ปิดตัว
ในตลาดคริปโตแบบดั้งเดิม วาฬมักใช้กลยุทธ์ ‘Stop-hunting’ หรือการลากราคาลงมาต่ำกว่าระดับที่นักลงทุนรายย่อยตั้งคำสั่ง ‘Stop-loss’ ไว้ เพื่อดึงผลกำไรเข้าหาตัวเอง อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เริ่มเห็นกลุ่มเทรดเดอร์รายย่อยร่วมมือกันเพื่อตอบโต้กลยุทธ์นี้ ธีเลนกล่าวว่า "สต็อป ฮันติ้ง ไม่ใช่เครื่องมือพิเศษของนักลงทุนสถาบันอีกต่อไป แต่กลายเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนทั่วไปสามารถนำมาใช้" อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อทิศทางตลาดในระยะยาวอย่างไร
เหตุการณ์ล่าสุดที่ได้รับความสนใจเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์รายหนึ่งในไฮเปอร์ลิควิดเปิดสถานะชอร์ตเลเวอเรจ 40 เท่า ด้วยขนาด 4,442 บิตคอยน์(BTC) มูลค่าราว 5.24 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 767 ล้านบาท) โดยมีระดับราคาที่จะถูกบังคับปิดอยู่ที่ 85,592 ดอลลาร์ เมื่อเทรดเดอร์บางกลุ่มรับรู้ข้อมูลนี้ พวกเขาขยับดันราคาของบิตคอยน์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการล้างพอร์ต ซึ่งผลลัพธ์ก็คือราคา BTC เพิ่มขึ้นกว่า 2.5% ภายในไม่กี่นาที
บางคนเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับกรณี ‘ชอร์ต สควีซ’ ในหุ้นเกมสต็อป(GameStop) เมื่อปี 2021 เทรดเดอร์กองทุนเฮดจ์ฟันด์นิรนามรายหนึ่งชื่อจอช แมน แสดงความคิดเห็นว่า "นักลงทุนบางรายรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายและใช้กลยุทธ์พลิกเกม บางครั้งพวกเขาปล่อยให้ตัวเองถูกบีบออกจากสถานะ เพื่อผลักดันตลาดให้พุ่งขึ้น แล้วเก็บผลกำไรจากตำแหน่งอื่นแทน"
ถึงตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าแนวโน้มนี้จะกลายเป็นกลยุทธ์หลักในตลาดคริปโตหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอนคือความโปร่งใสของบล็อกเชนทำให้รูปแบบการซื้อขายของวาฬถูกเปิดเผยมากขึ้น และเทรดเดอร์รายย่อยก็กำลังพัฒนาวิธีกลยุทธ์ของตนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน
ความคิดเห็น 0