Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คอยน์เบสขึ้นแท่นผู้ดำเนินการโหนดรายใหญ่สุดบนอีเธอเรียม(ETH)

Thu, 20 Mar 2025, 20:29 pm UTC

คอยน์เบสขึ้นแท่นผู้ดำเนินการโหนดรายใหญ่สุดบนอีเธอเรียม(ETH) / Tokenpost

​คอยน์เบสก้าวขึ้นเป็น ‘ผู้ดำเนินการโหนด’ รายใหญ่สุดบนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ขณะที่อานาโตลี ยาโคเวนโก ซีอีโอของโซลานาแล็บส์(Solana Labs) ออกมายอมรับผิดเกี่ยวกับโฆษณาที่เป็นประเด็นร้อน ส่วนจอห์น ดีตัน ทนายด้านคริปโตฯ เชื่อว่าคดีริปเปิล(XRP) กับ ก.ล.ต.สหรัฐ(SEC) ใกล้ถึงจุดสิ้นสุด

**คอยน์เบสขึ้นแท่นผู้ดำเนินการโหนดรายใหญ่ในอีเธอเรียม**

คอยน์เบสเปิดเผยผ่านรายงานล่าสุดว่าได้กลายเป็น ‘ผู้ดำเนินการโหนด’ รายใหญ่ที่สุดบนเครือข่ายอีเธอเรียม โดยปัจจุบันถือครองอีเธอเรียมที่ถูกสเตกไว้ถึง 11.42% จากทั้งหมด คิดเป็นประมาณ 3.84 ล้าน ETH หรือราว 680 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 19.6 พันล้านบาท)

ตามรายงาน คอยน์เบสสามารถรักษาเวลาทำงานของโหนดได้สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด ช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับเครือข่ายอีเธอเรียมโดยรวม นับเป็นก้าวสำคัญของคอยน์เบสในการขยายอิทธิพลภายในระบบนิเวศคริปโตฯ

**ซีอีโอโซลานาแล็บส์ขอโทษเกี่ยวกับโฆษณาก่อกระแสวิจารณ์**

อานาโตลี ยาโคเวนโก ซีอีโอของโซลานาแล็บส์ได้ออกมากล่าวถึง ‘America Is Back — Time to Accelerate’ โฆษณาที่เป็นประเด็นร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยโฆษณาดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากผสมผสานข้อความเชิงชาตินิยมเข้ากับประเด็นความหลากหลายทางเพศ สิ่งนี้ทำให้เกิดความขัดแย้งในวงกว้าง

ยาโคเวนโกกล่าวว่า “โฆษณานี้เป็นความผิดพลาด และยังเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจผม” พร้อมแสดงความรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบมากขึ้น นอกจากนี้ เขายังขอบคุณชุมชนโซลานาที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหานี้ และยืนยันว่าโซลานาจะโฟกัสไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบโอเพนซอร์สและการกระจายศูนย์ต่อไป

**ทนายจอห์น ดีตันย้ำ คดีริปเปิลกับ SEC กำลังถึงจุดสิ้นสุด**

จอห์น ดีตัน ทนายความด้านคริปโตฯ ให้ความเห็นว่า หลังจากที่ ก.ล.ต.สหรัฐเริ่มถอนตัวจากการต่อสู้ทางกฎหมายกับริปเปิล ข้อกล่าวหาที่ว่า XRP เป็น ‘หลักทรัพย์’ กำลังหมดความหมายไปโดยปริยาย

“ถึงตอนนี้ XRP ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่เป็น ‘สินค้าดิจิทัล’ อย่างชัดเจน” ดีตันกล่าว นอกจากนี้ เขายังระบุว่าหลังจาก ก.ล.ต. ถอนฟ้องออกไป ริปเปิลอาจมีโอกาสเจรจาลดค่าปรับจาก 125 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.56 พันล้านบาท) ได้อีกด้วย

ดีตันยังกล่าวเสริมว่า “ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ทัศนคติของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมคริปโตฯ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ก.ล.ต. ไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้อีกต่อไป ตอนนี้ริปเปิลไม่มีเหตุผลที่ต้องจ่ายค่าปรับมหาศาลแล้ว”

ด้านแบรด การ์ลิงเฮาส์ ซีอีโอของริปเปิล ให้ความเห็นว่านี่ถือเป็น ‘ชัยชนะครั้งใหญ่’ ของทั้งบริษัทและวงการคริปโตฯ โดยรวม และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ในอุตสาหกรรมนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1