Pump.fun เปิดตัว PumpSwap ท้าชนเรเดียม เปลี่ยนเกมตลาดมิมคอยน์โซลานา

แพลตฟอร์มซื้อขาย ‘มิมคอยน์’ บนโซลานา(SOL) อย่าง ‘Pump.fun’ เปิดตัวกระดาน DEX ของตัวเองภายใต้ชื่อ ‘PumpSwap’ พร้อมเดินหน้าชน ‘เรเดียม(Raydium)’

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม Pump.fun ประกาศว่าสภาพคล่องใหม่ของมิมคอยน์ในแพลตฟอร์มจะไม่ได้ถูกโอนไปยังเรเดียมอีกต่อไป แต่จะถูกซื้อขายโดยตรงบน PumpSwap แทน ก่อนหน้านี้ โทเคนที่ออกโดย Pump.fun จะถูกย้ายไปยังเรเดียมเพื่อใช้ในการซื้อขาย แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้แพลตฟอร์มสามารถบริหารระบบซื้อขายเองได้อย่างเต็มรูปแบบ

ทาง Pump.fun อธิบายว่า PumpSwap จะทำงานคล้ายกับเรเดียมเวอร์ชัน 4 และยูนิสวอปเวอร์ชัน 2 โดยเน้นการสร้างประสบการณ์การเทรดที่ราบรื่นที่สุด พร้อมทั้งชี้ว่ากระบวนการโอนเหรียญก่อนหน้านี้เพิ่มความผันผวนของราคาและทำให้ผู้ใช้ใหม่ต้องเผชิญกับกระบวนการที่ซับซ้อนเกินจำเป็น แต่ตอนนี้ สภาพคล่องจะได้รับการดูแลแบบ ‘ฟรี’ และ ‘ทันที’

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เรเดียมกำลังเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘LaunchLab’ สำหรับมิมคอยน์ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองแพลตฟอร์มเปลี่ยนจากพันธมิตรมาเป็นคู่แข่ง โดยอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศการเงินกระจายอำนาจ(DeFi) บนโซลานา ในเรื่องนี้ ผู้ร่วมก่อตั้ง Pump.fun อย่าง ‘อลอน(Alon)’ เชื่อว่า “การแข่งขันครั้งนี้จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้”

ปัจจุบัน ตลาดมิมคอยน์บนโซลานากำลังเติบโตขึ้น โดยมีโปรเจ็กต์อย่าง Daos.fun, GoFundMeme และ Pumpkin ที่กำลังได้รับความนิยมสูง เพื่อรับมือกับการแข่งขัน PumpSwap วางแผนที่จะนำระบบแบ่งปันรายได้กับผู้สร้างมิมคอยน์ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมของ GoFundMeme มาใช้

อย่างไรก็ตาม ภาวะซบเซาของตลาดมิมคอยน์เป็นปัจจัยที่น่ากังวล จากข้อมูลของ Cointelegraph เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จำนวนมิมคอยน์ที่เปิดตัวสำเร็จบน Pump.fun ลดลงกว่า 80% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม และรายได้ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่อวันของแพลตฟอร์มลดลงจาก 4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 584 พันล้านวอน) เหลือเพียง 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 14.6 พันล้านวอน)

แม้ว่าต้นปี 2024 ระบบนิเวศของโซลานาจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาวะตลาดได้ ข้อมูลจาก DeFiLlama ชี้ว่าในปีเดียวกัน มูลค่ารวมที่ถูกล็อก(TVL) ของโซลานาพุ่งจาก 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.04 ล้านล้านวอน) เป็น 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.14 ล้านล้านวอน) ขณะที่ปริมาณซื้อขายรายวันของเรเดียมก็เพิ่มขึ้นจาก 245 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 358 พันล้านวอน) เป็นมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.92 ล้านล้านวอน)

ในขณะเดียวกัน เรเดียมยังคงพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดแม้จะอยู่ท่ามกลางกระแสมิมคอยน์ โดยในเดือนมกราคม แพลตฟอร์มได้นำเสนอฟีเจอร์ซื้อขายล่วงหน้าแบบมีเลเวอเรจที่ไม่มีวันหมดอายุ เพื่อแข่งขันกับ ‘จูปิเตอร์(Jupiter)’ ซึ่งเป็นโปรโตคอล DeFi รายใหญ่บนโซลานา