ปริมาณการซื้อขายบน Pump.fun แพลตฟอร์มเปิดตัวโทเคนบนเครือข่ายโซลานา(SOL) ร่วงลงอย่างมากในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลงถึง 63% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ตามข้อมูลจาก Dune Analytics ปริมาณการซื้อขายซึ่งเคยแตะระดับ 11.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17.4 ล้านล้านวอน) ในเดือนมกราคม ลดลงเหลือเพียง 4.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.4 ล้านล้านวอน) ในเดือนกุมภาพันธ์
การชะลอตัวของปริมาณการซื้อขายบน Pump.fun เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับตลาด ‘มีมคอยน์’ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการซื้อขายโดยบุคคลวงใน รักพูล และพฤติกรรมฉ้อโกงที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นอกจากนี้ ตัวเลขการเปิดตัวโทเคนใหม่บนแพลตฟอร์มยังลดลงอย่างมาก โดยจากเดิมที่มีโทเคนใหม่เปิดตัวมากถึง 1,200 รายการในวันที่ 24 มกราคม เหลือต่ำกว่า 300 รายการเมื่อต้นเดือนมีนาคม
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายในเดือนกุมภาพันธ์จะลดลงจนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 แต่ Pump.fun ยังคงเน้นย้ำว่าตัวเลขนี้ยังคงเป็นปริมาณการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับสี่ของแพลตฟอร์มตั้งแต่เปิดตัว อาลอน โคเฮน ผู้ร่วมก่อตั้งของแพลตฟอร์มกล่าวว่า “ตลาดคริปโตโดยรวมกำลังเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายของทั้งอัลต์คอยน์และมีมคอยน์ลดลง อย่างไรก็ตาม อัตราการครองตลาดในระบบนิเวศออนเชนของแพลตฟอร์มยังคงอยู่ในระดับคงที่”
ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา Pump.fun สามารถสร้างรายได้ประมาณ 74 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.08 ล้านล้านวอน) ทั้งนี้ อุตสาหกรรมคริปโตยังคงมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดมีมคอยน์ ซึ่งจากเดิมเป็นโครงการที่ขับเคลื่อนด้วยชุมชน กลับกลายเป็นช่องทาง ‘แสวงหาผลประโยชน์’ จากนักลงทุนรายย่อย อนาสตาเซีย ฟลอทนิโควา ผู้ร่วมก่อตั้ง Fideum บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบของบล็อกเชนกล่าวว่า “ตลาดมีมคอยน์ถูกควบคุมโดยกลุ่มวงใน กลยุทธ์ปั่นราคา (Pump and Dump) และกลุ่มบอทเทรดดิ้ง”
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ก็กำลังจับตามองตลาดมีมคอยน์ โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ SEC ได้ออกแถลงการณ์ว่า แม้มีมคอยน์จะไม่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ แต่ทางหน่วยงานยังคงดำเนินการจัดการกับพฤติกรรมฉ้อโกงภายในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0