บิตคอยน์(BTC) สะดุดแนวต้าน 90,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงขายและสภาพคล่องตึงตัว

ราคาบิตคอยน์(BTC) ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญที่ 90,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.314 ล้านบาท) ได้ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ โดยในสัปดาห์นี้ บิตคอยน์แตะระดับสูงสุดที่ 88,752 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.296 ล้านบาท) ก่อนที่จะพลิกเป็นขาลง ทำให้ความหวังของนักลงทุนหลายรายต้องหยุดชะงัก

สาเหตุแรกของภาวะชะลอตัวนี้คือ ‘แรงขายจากนักลงทุนระยะสั้น’ ตามข้อมูลจาก Glassnode ผู้ถือครองบิตคอยน์ที่ถือไว้ไม่เกิน 155 วัน กำลังถือบิตคอยน์ที่อยู่ในสถานะขาดทุนถึงกว่า 3.4 ล้าน BTC ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2018 สาเหตุคาดว่ากลุ่มนี้ได้เข้าลงทุนใกล้ระดับราคาสูงสุดเดิม และเมื่อราคาปรับฐานจึงเร่งขายลดความเสี่ยง ส่งผลให้แรงขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ปัจจัยที่สองคือ ‘สภาวะสภาพคล่องตึงตัว’ ปริมาณการโอนบิตคอยน์บนบล็อกเชนลดลงเหลือเพียง 5.2 พันล้านดอลลาร์ (ราว 76,000 ล้านบาท) ลดลงกว่า 47% จากระดับสูงสุด นอกจากนี้ จำนวนกระเป๋าเงินที่มีการใช้งานยังลดลงจาก 950,000 เหลือ 780,000 บัญชีเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของการมีส่วนร่วมในตลาด ในตลาดฟิวเจอร์สเกี่ยวกับบิตคอยน์ เรายังเห็นการลดลงของ ‘มูลค่าเปิดสัญญา’ จาก 71.85 พันล้านดอลลาร์ เหลือ 54.65 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลงราว 24% สะท้อนว่าคำสั่งซื้อฝั่งซื้อเพื่อดูดซับแรงขายนั้นไม่เพียงพอ

ปัจจัยสุดท้ายคือ ‘การขาดการไหลเข้าของเงินทุนใหม่’ จากข้อมูลแผนที่ 'Cost Basis Distribution' ของบิตคอยน์ ระบุว่ามีแรงซื้อสะสมอยู่ในช่วงราคา 93,000-108,000 ดอลลาร์ แต่บริเวณต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์กลับไม่พบสัญญาณการเข้าซื้อใหม่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ราคาซื้อเฉลี่ยของกลุ่มที่ถือไว้ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ยังต่ำกว่ากลุ่มที่ถือไว้ 1-3 เดือน บ่งบอกถึงความรู้สึกไม่มั่นคงและความระแวดระวังในหมู่นักลงทุน

‘ความคิดเห็น’ อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกจากการที่นักลงทุนระยะยาวยังถือครองบิตคอยน์อยู่ราว 40% ของมูลค่าเครือข่ายทั้งหมด ซึ่งอาจช่วยลดแรงขาย และเปิดทางให้เกิดรอบการสะสมใหม่ หากราคากลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง

บทสรุปในขณะนี้ บิตคอยน์ยังไม่สามารถฝ่าด่าน 90,000 ดอลลาร์ได้ จำเป็นต้องมี ‘การลดแรงกดดันจากนักลงทุนระยะสั้น’, ‘การฟื้นตัวของสภาพคล่อง’ และ ‘การเข้ามาของเงินทุนใหม่’ เพื่อส่งเสริมแรงซื้อรอบใหม่ Cointelegraph ประเมินว่าปัจจุบันยังไม่เห็นเงื่อนไขเหล่านี้เกิดขึ้นครบถ้วน จึงเป็นเหตุให้ ‘โมเมนตัมขาขึ้น’ ถูกจำกัดอยู่ในระยะสั้น