Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ ดันบิตคอยน์(BTC) เป็นทุนสำรอง ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจหมุนเวียน

Thu, 27 Mar 2025, 21:32 pm UTC

สหรัฐฯ ดันบิตคอยน์(BTC) เป็นทุนสำรอง ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจหมุนเวียน / Tokenpost

**อนาคตของบิตคอยน์(BTC): ระหว่างทุนสำรองของรัฐและเศรษฐกิจหมุนเวียน**

ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังผลักดันให้มี ‘ทุนสำรองบิตคอยน์’ เป็นกลยุทธ์ในการบูรณาการสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิม นักลงทุนและชุมชนบิตคอยน์บางส่วนมองว่าสิ่งนี้ขัดแย้งกับเป้าหมายดั้งเดิมของบิตคอยน์

แจ็ค ดอร์ซีย์(Jack Dorsey) ผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์และผู้สนับสนุนบิตคอยน์ เคยกล่าวเมื่อต้นปีว่า หากบิตคอยน์ถูกใช้เพียงเพื่อเก็บมูลค่าเหมือน ‘ทองคำดิจิทัล’ นั่นหมายถึงความล้มเหลวของโปรเจ็กต์ เขาเชื่อว่าการที่รัฐบาลถือครองบิตคอยน์อาจเป็นผลดีต่อประเทศนั้น ๆ แต่จะส่งผลลบต่อระบบนิเวศของบิตคอยน์โดยรวม

ขณะเดียวกัน ชุมชนบิตคอยน์ทั่วโลกกำลังผลักดันแนวคิด ‘เศรษฐกิจหมุนเวียนของบิตคอยน์’ หรือ Circular Bitcoin Economy โดยมุ่งหวังให้บิตคอยน์ทำหน้าที่เป็น ‘เงินสดแบบเพียร์ทูเพียร์’ อย่างแท้จริง ในหลายประเทศ ผู้คนเริ่มใช้บิตคอยน์เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน และสร้างโมเดลเศรษฐกิจที่ใช้บิตคอยน์ในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้กำหนดนโยบายในสหรัฐฯ ยังคงมองบิตคอยน์เป็น ‘สินทรัพย์เก็บมูลค่า’ มากกว่าเป็นสกุลเงินที่ใช้ซื้อขายจริง ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในงานประชุมบิตคอยน์ที่แนชวิลล์เมื่อเดือนกรกฎาคมว่า “อย่าขายบิตคอยน์ของคุณเด็ดขาด”

ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ซีอีโอของบริษัท Strategy และผู้สนับสนุนบิตคอยน์ตัวยง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากสหรัฐฯ ถือครองบิตคอยน์ในปริมาณมาก สิ่งนี้จะนำไปสู่แนวคิดใหม่ที่เขาเรียกว่า ‘โชคชะตาที่ชัดแจ้ง’ (Manifest Destiny) สำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล

ขณะที่ฝ่ายที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนของบิตคอยน์มองต่างออกไป อิซา ซานโตส(Isa Santos) ผู้ก่อตั้งโครงการ ‘บิตคอยน์ อิสลา’ ในเม็กซิโกกล่าวว่า “บิตคอยน์เป็นของทุกคน แม้แต่ศัตรูก็สามารถใช้มันได้” โดยเขาเชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาลจะเข้ามามีบทบาทอย่างไร การกระจายอำนาจของบิตคอยน์จะคงอยู่ต่อไป

สเตลิออส รามอส(Stelios Rammos) ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้ง Geyserfund เตือนว่า สิ่งสำคัญคือบิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และความสำเร็จที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คน

เศรษฐกิจหมุนเวียนของบิตคอยน์กำลังเติบโตในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น คิวบา ซึ่งประชาชนใช้บิตคอยน์เพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงิน และเปรู ที่ซึ่งบิตคอยน์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการออมและจ่ายค่าเล่าเรียนในพื้นที่ชนบท

อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของราคายังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำบิตคอยน์ไปใช้ในวงกว้าง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการเสถียรภาพทางการเงิน

แม้จะมีอุปสรรค แต่โครงการเศรษฐกิจหมุนเวียนของบิตคอยน์ยังคงเดินหน้า เช่น โครงการ ‘บิตคอยน์ เอกาซี’ (Bitcoin Ekasi) ในแอฟริกาใต้ ที่จ่ายเงินเดือนให้โค้ชสอนโต้คลื่นเป็นบิตคอยน์ และกระตุ้นให้ธุรกิจท้องถิ่นรับบิตคอยน์เป็นเงินแลกเปลี่ยน

รามอสเชื่อว่า วันหนึ่งบิตคอยน์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็นต้องมีคำว่า ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ อีกต่อไป

ดังนั้น อนาคตของบิตคอยน์ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะกลายเป็นทุนสำรองทางเศรษฐกิจของรัฐบาล หรือจะเป็นสกุลเงินที่เสรีและไร้ศูนย์กลาง สิ่งที่แน่ชัดคือ การใช้งานในชีวิตจริงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบทบาทของบิตคอยน์ในโครงสร้างเศรษฐกิจโลกอาจยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1