หากราคาบิตคอยน์(BTC) ไม่สามารถรักษาระดับ 93,000 ดอลลาร์ไว้ได้ อาจมีสถานการณ์ที่ส่งผลให้มีการชำระบัญชีตำแหน่ง Long มูลค่ากว่า 1.88 ล้านล้านวอน (ประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์) ตามการวิเคราะห์ล่าสุด
เมื่อวันที่ 4 (เวลาท้องถิ่น) สหรัฐฯ และจีนประกาศกำแพงภาษีใหม่ ส่งผลให้ความตึงเครียดทางการค้ากลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทำให้ตลาดการเงินปรับตัวลดลง รวมถึงบิตคอยน์ที่ร่วงลงมาต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ 100,000 ดอลลาร์
ไรอัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์จากบิตเก็ต รีเสิร์ช ให้ความเห็นว่า "บิตคอยน์ต้องรักษาระดับ 93,000 ดอลลาร์เอาไว้ หากราคาหลุดลงไปต่ำกว่า 90,500 ดอลลาร์ มีโอกาสสูงที่แนวโน้มขาลงจะเริ่มต้น"
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาด คอยน์กลาส ชี้ให้เห็นว่าหากราคาบิตคอยน์ร่วงลงมาต่ำกว่า 93,000 ดอลลาร์ การชำระบัญชีตำแหน่ง Long ที่ใช้เลเวอเรจบนกระดานเทรดต่างๆ อาจสูงถึง 13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ความผันผวนในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าความตึงเครียดของสงครามการค้าอาจส่งผลดีต่อบิตคอยน์ในระยะยาว เจมส์ อู ซีอีโอของ DFG เวนเจอร์แคปิตอล ระบุว่า "สถานการณ์นี้อาจนำไปสู่การอ่อนค่าของดอลลาร์และเพิ่มความเป็นไปได้ของภาวะเงินเฟ้อ ทำให้บิตคอยน์ได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าของสกุลเงินกระดาษ"
ขณะเดียวกัน นักลงทุนกำลังจับตาดูการประชุมทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวนิรนามว่าการประชุมอาจถูกเลื่อนออกไป
ด้วยความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ นักลงทุนจึงต้องคำนึงถึงแนวรับสำคัญของบิตคอยน์และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของตลาดในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0