อีเธอเรียม(ETH) ร่วง 45% ในไตรมาสแรกปี 2025—แย่สุดในประวัติการณ์ ขณะที่ทองคำพุ่งทำสถิติในรอบ 40 ปี

ในไตรมาสแรกของปี 2025 อีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงกว่า 45% กลายเป็นหนึ่งในไตรมาสที่แย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ราคาทองคำกลับพุ่งขึ้น 20% อย่างโดดเด่น เกิดภาพตัดกันชัดเจนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ปลอดภัย โดยอีเธอเรียมได้รับแรงกดดันจากการขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทองคำตอกย้ำสถานะ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ ด้วยผลตอบแทนในไตรมาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1986

ราคาของอีเธอเรียมเริ่มต้นปีที่ระดับราว 3,200 ดอลลาร์ แต่ก็หลุดโซนแนวรับ 2,500 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และไหลลงต่อเนื่องจนถึงระดับ 2,200 ดอลลาร์ในปลายมีนาคม เพียงแค่ในระยะเวลา 1 เดือน ราคาก็ลดลงไปอีก 18.5% ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่บริเวณ 1,813 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,878 ดอลลาร์ (เมื่อพฤศจิกายน 2021) ถึงกว่า 63% และน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าเมื่อปีที่แล้ว

แนวโน้มระยะสั้นก็ยังน่ากังวล ภายใน 7 วันที่ผ่านมา ราคาของอีเธอเรียมลดลงอีก 14% แย่กว่าภาพรวมของตลาดคริปโตซึ่งลดลงราว 7.4% ปัจจัยกดดันอย่างสภาพคล่องบางและแรงซื้อลดลง ทำให้ราคาร่วงลงในกรอบผันผวนระหว่าง 1,782 – 1,838 ดอลลาร์

ขณะที่ราคาทองคำดีดตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงเวลาเดียวกัน โดยล่าสุดทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 3,128 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คิดเป็นผลตอบแทนถึง 20% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ‘ความคิดเห็น’ ของนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า ความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย *ภาษีนำเข้า* ขนาดใหญ่ของทรัมป์ที่จะประกาศในวันที่ 2 เมษายน ส่งผลให้นักลงทุนหันไปเลือกทองคำที่มีความมั่นคงมากกว่า

มิคาเอล ฟาน เดอ ป็อป นักวิเคราะห์ตลาด ให้ความเห็นว่า “จุดสูงสุดของราคาทองคำ อาจตรงกับจุดต่ำสุดของอีเธอเรียม” บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเห็นการฟื้นตัวของ ETH หากทองคำเริ่มชะลอตัว นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังพยายามค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ท่ามกลางแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การชะลออนุมัติ ETF และความไม่แน่นอนทางนโยบาย

อัตราส่วน ETH/BTC ยังร่วงลงอย่างมากจนแตะ 0.02195 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 ช่วงที่โลก DeFi ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ ข้อมูลออนเชนจาก IntoTheBlock ระบุว่า มีประมาณ 12.43 ล้านกระเป๋าที่ถืออีเธอเรียมกว่า 66.18 ล้านเหรียญ บริเวณแนวต้าน 2,200 – 2,580 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่อาจเกิดแรงขายมหาศาล ‘ความคิดเห็น’ จากตลาดมองว่า หากราคาทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงซื้อรุนแรงจากการถูกบังคับปิดสถานะ *ชอร์ต* แต่ในตอนนี้แรงกดดันจากฝั่งขายยังถือว่าเหนือกว่าอย่างชัดเจน

การเคลื่อนไหวในไตรมาสนี้สะท้อนภาพความแตกต่างอย่างชัดเจนของตลาดที่กำลังเคลื่อนไปสู่อ้อมอกของ ‘สินทรัพย์ปลอดภัย’ อย่างทองคำ แทนที่จะเป็นคริปโต ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายในสหรัฐฯ ไตรมาสถัดไปอาจเป็นช่วงชี้ชะตาว่า อีเธอเรียมจะสามารถกลับมารีบาวด์ได้หรือไม่หลังจากการประกาศภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ในเดือนเมษายน