ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ครอบครัวของประธานาธิบดีทรัมป์เดินหน้าเสริมอำนาจในการควบคุมโปรเจกต์ดีไฟ(DeFi) อย่าง ‘World Liberty Financial(WLFI)’ อย่างเต็มรูปแบบ หลังผู้ร่วมก่อตั้งประกาศถอนตัวจากการบริหาร ตามรายงานของ Reuters เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น)
รายงานระบุว่า ทรัมป์และครอบครัวได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นใหม่ โดยตั้งบริษัทโฮลดิ้งใหม่ในชื่อ *WLF Holdco LLC* เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการดำเนินงานทั้งหมดของโพรโตคอล WLFI โดยบริษัท *DT Marks DeFi LLC* ที่ประธานาธิบดีทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวถือหุ้นอยู่ 60% ได้กลายเป็นผู้ถือผลประโยชน์หลักใน WLF Holdco ส่งผลให้ *แจ็ก พอร์คแมน* และ *เชส เฮลโล* สองผู้ร่วมก่อตั้งเดิมถูกถอดออกจากตำแหน่งที่มีอำนาจตัดสินใจ และบทบาทของการบริหารก็ย้ายไปอยู่ในมือของครอบครัวทรัมป์โดยสมบูรณ์
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก WLFI เปิดขายโทเคนสองรอบและสามารถระดมทุนไปได้มากถึง 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 803 พันล้านวอน) โดย Reuters วิเคราะห์ว่า มีโทเคนมากถึง 22.5 พันล้านจากจำนวนทั้งหมด 100 พันล้านโทเคน ที่อาจถูกจัดสรรให้กับครอบครัวทรัมป์ และรายได้จากการขายโทเคนอาจมากถึง 75% ที่จะส่งตรงไปยัง DT Marks DeFi
WLFI เปิดเผยว่ามีนักลงทุนเข้าร่วมมากกว่า 85,000 รายในการขายโทเคนรอบดังกล่าว โดยมากกว่าครึ่งของยอดเงินลงทุนทั้งหมดมาจากกระเป๋าเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ จุดที่น่าสนใจคือ *จัสติน ซัน* ผู้ก่อตั้งทรอน(TRON) ได้เข้าซื้อโทเคน WLFI มูลค่าประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ราว 1,095 พันล้านวอน) ขณะเดียวกันก็มีสตาร์ทอัปด้านบล็อกเชนอย่าง *Movement* และ *Ondo Finance* ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโพรโตคอลนี้ด้วย
โปรเจกต์ WLFI ถูกวิจารณ์ว่ามี ‘อัตลักษณ์ทางการเมือง’ ชัดเจน โดยในวันเปิดตัว ทรัมป์ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ผู้สนับสนุนคริปโตสูงสุด’(Chief Crypto Advocate) ขณะที่ลูกชายคนโต *โดนัลด์ จูเนียร์* ถูกตั้งชื่อว่าเป็น ‘ทูตประชาสัมพันธ์ Web3’ ลูกชายคนที่สอง *อีริก* รับตำแหน่ง ‘ผู้มองการณ์ไกลด้าน DeFi’ และบารอน ลูกชายคนเล็ก ได้ชื่อว่าเป็น ‘นักวางกลยุทธ์แห่งอนาคต’ ปัจจุบัน อีริก ทรัมป์ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการใน WLF Holdco อีกด้วย
WLFI ตั้งเป้าพัฒนาตัวเองเป็นโปรโตคอลการลงทุนแบบกระจายศูนย์ผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) โดยถือครองสินทรัพย์หลักอย่าง อีเธอเรียม(ETH), บิตคอยน์แบบห่อหุ้ม(WBTC), USDT และ USDC และมียอดถือครองสูงสุดในบางช่วงถึง 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 526 พันล้านวอน)
ความคิดเห็น: การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจเลือกลงทุนในดีไฟ แสดงถึง ‘การมองหาโอกาสเชิงกลยุทธ์’ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างเขากับหน่วยงานกำกับดูแล และยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่คริปโตจะถูกใช้เป็นสินทรัพย์เชิงการเมืองมากกว่าการลงทุนทั่วไปในระยะยาว
ความคิดเห็น 0