ความเป็นส่วนตัวในเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็น
อีราน บาราค(Eran Barak) ซีอีโอของมิดไนท์(Midnight) เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับ Cointelegraph เมื่อเร็วๆ นี้ว่า แม้ ‘ความโปร่งใส’ จะเป็นหัวใจของบล็อกเชน แต่กลับอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมสำคัญอย่างองค์กรธุรกิจและภาคการแพทย์ เขาเตือนว่าข้อมูลในบล็อกเชนอาจเปิดเผยรายละเอียดของบุคคลหรือองค์กร ทำให้เสี่ยงต่อการถูกติดตามโดยแฮกเกอร์หรือบริษัทวิเคราะห์บิ๊กดาต้า
บาราคยกตัวอย่างการใช้บล็อกเชนในบันทึกทางการแพทย์ โดยระบุว่าการเก็บข้อมูลประวัติการพบแพทย์สามารถนำไปสู่การคาดเดาสุขภาพของบุคคลได้ นอกจากนี้ หากข้อมูลขององค์กรธุรกิจถูกเปิดเผย อาจส่งผลให้กลยุทธ์ราคาและสัญญาต่างๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการแข่งขันในตลาด เขาเสริมว่า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) ทำให้ AI สามารถวิเคราะห์เมตาดาต้าในบล็อกเชนเพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ได้มากขึ้น ทำให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวกลายเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่เคย
พอล โบรดี(Paul Brody) ผู้นำด้านบล็อกเชนระดับโลกของ EY กล่าวเสริมว่า หากองค์กรต้องการยอมรับเทคโนโลยีบล็อกเชนและเว็บ3 พวกเขาจำเป็นต้องมีโซลูชันปกป้องความเป็นส่วนตัวที่แข็งแกร่ง เขาชี้ให้เห็นว่าหากข้อมูลที่ละเอียดอ่อนขององค์กรไม่ได้รับการป้องกัน อาจถูกคู่แข่งนำไปใช้ประโยชน์ หรืออาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน
อาวีดาน อาบิทโบล(Avidan Abitbol) ผู้อำนวยการโครงการของโปรโตคอลการเป็นเจ้าของข้อมูล(Data Ownership Protocol หรือ DOP) กล่าวสนับสนุนแนวคิดนี้เช่นกัน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงิน การถือครองสินทรัพย์ หรือกระบวนการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเสริมความแข็งแกร่งด้านความเป็นส่วนตัวในระบบบล็อกเชน
นอกจากนี้ เดวิด โฮลท์ซแมน(David Holtzman) อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองทางทหารและที่ปรึกษาทำเนียบขาว วิเคราะห์ว่า ในยุค AI ระบบข้อมูลแบบรวมศูนย์กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้น เขามองว่าทางออกเดียวคือการเปลี่ยนไปใช้ระบบแบบกระจายศูนย์(DLT) ในขณะที่ต้องเสริมมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่อุตสาหกรรมหลักมากขึ้น ความท้าทายของวงการจึงอยู่ที่การหาจุดสมดุลระหว่าง ‘ความโปร่งใส’ และ ‘ความเป็นส่วนตัว’ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีนี้
ความคิดเห็น 0