ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
*ปัญหาภายในพุ่งสูง* เมื่อโครงการ **พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)** ต้องเผชิญกับแรงต้านจากชุมชนผู้ใช้อย่างรุนแรง โดยต้นตอของปัญหาอยู่ที่การล่าช้าในการอนุมัติขั้นตอนสำคัญ ‘การยืนยันตัวตนทางธุรกิจ(KYB)’ สำหรับนักพัฒนา ซึ่งส่งผลให้การดำเนินโครงการหลายส่วนหยุดชะงักลง และผลที่ตามมาเริ่มชัดเจนเมื่อบางทีมพัฒนาเริ่มย้ายออกจากเมนเน็ตของพายเน็ตเวิร์กแล้ว
หนึ่งในตัวอย่างชัดเจนคือ **PiDaoSwap** ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบไร้ศูนย์กลาง (DApp) ที่รอการอนุมัติ KYB นานกว่า 2 สัปดาห์ สุดท้ายตัดสินใจเปิดตัวโปรเจกต์ NFT ใหม่บนเชนของ **ไบแนนซ์สมาร์ทเชน(BSC)** โดยทีมงานระบุว่า *“ไม่สามารถรอไปเรื่อยๆ ได้ จึงจำเป็นต้องย้ายไปยังเชนที่สามารถเริ่มโครงการได้ทันที”* พร้อมยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาคือ “ช่วงเวลาแห่งความทรมาน” แม้จะยังยืนยันว่าจะสนับสนุนพายเน็ตเวิร์กต่อในระยะยาว แต่ยอมรับว่า ณ ตอนนี้ ทางเลือกอื่นเป็นสิ่งที่จำเป็น
ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบกว้างในระบบนิเวศของพายเน็ตเวิร์ก และไม่ได้จำกัดเพียงทีมนี้เท่านั้น *ดร. อัลท์คอยน์* อินฟลูเอนเซอร์ของชุมชน ให้ความเห็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ประเด็นเฉพาะ PiDaoSwap พร้อมเผยว่าหลายกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ก็ยังไม่สามารถนำพายคอยน์เข้าสู่ตลาดได้ สาเหตุหลักมาจาก **ความไม่ชัดเจนในนโยบายล็อกโทเคนและการเผาโทเคน** ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง *“ความโปร่งใสที่น่าเป็นห่วง”* จากทีมหลักอย่าง **ไพคอร์ทีม(PiCoreTeam)**
สถานการณ์ที่ยืดเยื้อส่งผลต่อราคาของ **พายคอยน์(PI)** อย่างชัดเจน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาได้ลดลงกว่า *20%* เหลือเพียง *0.44 ดอลลาร์สหรัฐ* และหลุดจากการจัดอันดับ 30 แรกของสกุลเงินดิจิทัลตามมูลค่าตลาด มีความเห็นจากภายในชุมชนถึงแนวโน้มว่าราคาหุ้นอาจร่วงลงถึง *0.10 ดอลลาร์* หากไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นได้อีก ความคาดหวังในการแตะระดับ *1 ดอลลาร์* เป็นเรื่องที่ลางเลือนลงเรื่อยๆ *ความมั่นใจของนักลงทุนจึงถดถอยอย่างรวดเร็ว*
อย่างไรก็ตาม ไพคอร์ทีมยังคงเดินหน้าขยายกิจกรรมโดยเน้นทรัพย์สินดิจิทัล โดยล่าสุดมีการจัดประมูลโดเมนของ Pi ซึ่งกวาดจำนวนการเสนอราคาไปแล้วมากกว่า *200,000 รายการ* แสดงให้เห็นว่ามีผู้ใช้งานที่ยังคงมีความหวังในโครงการ *ความคิดเห็น* จากหลายฝ่ายชี้ว่า แม้จะเป็นสัญญาณบวก แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการสยบความไม่พอใจที่ขยายเป็นวงกว้าง
เสียงเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมต่างเห็นตรงกันว่า หากพายเน็ตเวิร์กต้องการกู้วิกฤตนี้ กลไก **KYB** ต้องมีความชัดเจนและรวดเร็วกว่านี้ ในขณะเดียวกัน รูปแบบการบริหารโครงการทั้งหมดก็ควรถูกตรวจสอบใหม่ทั้งหมด เพื่อหลุดพ้นจากวังวนของ ‘การเลื่อนลอย’, ‘การถอนตัวของนักพัฒนา’ และ ‘การสูญเสียความเชื่อถือ’ ที่เริ่มเข้าครอบงำแพลตฟอร์มนี้อย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0