ในขณะที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังมีความซับซ้อนมากขึ้น แนวโน้มของการพัฒนาเครื่องมือเทรดอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าบอททั่วไปก็ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยล่าสุด ‘โกรก 3’ (Grok 3) โมเดลปัญญาประดิษฐ์จากบริษัท xAI ของอีลอน มัสก์(Elon Musk) เริ่มถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์และเทรดคริปโตแบบอัตโนมัติ แม้เดิมจะถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานประมวลผลภาษาธรรมชาติ แต่ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์และการออกแบบกลยุทธ์อย่างยืดหยุ่น ก็ทำให้โกรก 3 เริ่มกลายเป็น ‘ตัวช่วยใหม่’ ของเทรดเดอร์ในสายคริปโต
จุดแข็งของโกรก 3 คือความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลายและครอบคลุม ทั้งโซเชียลมีเดีย ข่าวสาร บล็อกเชน และข้อมูลออนเชน เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวทางจิตวิทยาของตลาดก่อนประกอบเข้ากับเทคนิคอลวิเคราะห์เพื่อจับโอกาสซื้อขาย เทียบกับบอททั่วไปที่ยึดตามอินดิเคเตอร์เพียงอย่างเดียว โกรก 3 สามารถรับคำสั่งเป็นภาษาธรรมชาติ อย่างเช่น “หาก RSI ต่ำกว่า 30 และมีการพูดถึงเหรียญในทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นแบบผิดปกติ ให้ส่งคำสั่งซื้อ” ซึ่งช่วยให้สามารถออกแบบกลยุทธ์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น
มีกรณีศึกษาจากเทรดเดอร์บางรายที่นำโกรก 3 ไปพัฒนาเป็นกลยุทธ์เทรดความถี่สูงของโซลานา(SOL) โดยใช้ข้อมูลราคาจากกราฟ 1 นาทีมาเป็นพื้นฐาน ตั้งค่าระบบให้สามารถถือสถานะพร้อมกันได้มากที่สุด 10 ตำแหน่ง พร้อมจำกัดขาดทุนต่อออร์เดอร์เพื่อควบคุมความเสี่ยง กลยุทธ์เหล่านี้พัฒนาผ่านการปรับโครงสร้างจากโกรก 3 ผสานกับการเขียนโค้ดเพิ่มเติม และเชื่อมต่อการประมวลผลผ่าน API ของแพลตฟอร์มดีไฟ(DeFi)
แต่โกรก 3 ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเว็บเทรดโดยตรง การตั้งค่าการใช้งานจึงต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่รองรับ API อาทิ 3Commas, เทรดดิ้งวิว หรือ CryptoHopper โดยเทรดเดอร์สามารถใช้สคริปต์ Python, เครื่องมือ No-code อย่าง IFTTT หรือ Zapier เพื่อสร้างระบบการทำงานอัตโนมัติได้ จากนั้นสามารถระบุเงื่อนไขเจาะจง เช่น RSI, MACD, ความเคลื่อนไหวของวาฬ หรือสัญญาณทางจิตวิทยาสังคม และที่สำคัญคือ ต้องมีการ *แบ็กเทสต์* กลยุทธ์กับข้อมูลในอดีต ซึ่งสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มอย่างเทรดดิ้งวิวหรือ CryptoQuant เพื่อวัดความแม่นยำและกรองสัญญาณหลอก
แน่นอนว่าการเทรดแบบอัตโนมัติต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุมความเสี่ยง เช่น การตั้งจุดตัดขาดทุน การจัดสรรพอร์ต การใช้เทรลลิ่งสต็อป ฯลฯ และยังต้องมีการติดตามและปรับแต่งกลยุทธ์ตลอดเวลา เพราะต่อให้เป็น AI ขั้นสูงก็ไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ฉับพลัน เช่น ข่าวด่วน หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกฎระเบียบได้อย่างแม่นยำเสมอไป *ความคิดเห็น* การประสานงานมนุษย์จึงยังคงจำเป็นอย่างมาก
กระนั้น โกรก 3 ก็ยังมีข้อจำกัด เช่นไม่สามารถเก็บความจำของกลยุทธ์จากเซสชันก่อน ทำให้สูญเสียประวัติการเทรด อีกทั้งยังมีความล่าช้าในการประมวลผลข้อมูลสด หรืออาจมีข้อผิดพลาดด้านข้อมูลที่ทำให้พลาดช่วงเวลาที่ควรเข้าออร์เดอร์ และเมื่อคำสั่งที่ให้กับ AI ไม่ชัดเจนพอ ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่อง *อคติของข้อมูล* โดยเฉพาะเมื่อข้อมูลวิเคราะห์มาจากแหล่งข่าวเดียวกันซ้ำ ๆ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อขาย
*ความคิดเห็น* แม้ว่าโกรก 3 จะเพิ่มศักยภาพด้านการวิเคราะห์ให้การเทรดคริปโต ถึงขั้นกลายเป็นเครื่องมือที่ล้ำหน้ากว่าบอตเดิมๆ แต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบครบจบ ข้อได้เปรียบของมันจะเกิดผลจริง ก็ต่อเมื่อมีการออกแบบระบบอย่างมีโครงสร้าง มีการทดสอบเชิงลึก และมีมนุษย์คอยสังเกตสภาพตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การร่วมมือระหว่างเทรดเดอร์มนุษย์และ AI จึงเป็นกุญแจสำคัญของการเทรดทำกำไรในยุคเทรดดิ้งอัตโนมัติที่กำลังเติบโต
ความคิดเห็น 0