ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ ‘ไซด์เวย์’ อยู่เหนือแนวรับที่ ‘8 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.17 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นระดับที่มีความสำคัญทั้งในเชิงเทคนิคและจิตวิทยาการลงทุน โดยนักวิเคราะห์มองว่า ระดับราคานี้อาจกลายเป็นจุดตัดสินทิศทางของตลาดในระยะถัดไป
ข้อมูลจาก TradingView ชี้ว่า บิตคอยน์กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณแนวรับ 8 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งอยู่ในช่วง ‘0.5–0.618 Fibonacci retracement’ และแนวล่างของกรอบขาขึ้น โดยยังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าราคา ‘หลุดต่ำกว่าแนวรับนี้’ อาจเกิดการเทขายจากนักลงทุนสาย Long และนำไปสู่การปรับฐานรุนแรงได้
เมื่อดูจากกราฟในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง พบว่าบิตคอยน์กำลังเผชิญกับแรงขายบริเวณแนวต้านของกรอบขาลง โดยขณะนี้กำลังทดสอบแนวรับระยะสั้นที่ ‘8.3 หมื่นดอลลาร์’ ซึ่งอยู่ใกล้ระดับจุดต่ำสุดก่อนหน้า แม้จะมีสัญญาณของแรงซื้อระยะสั้น แต่ภาพรวมตลาดยังคงอยู่ในภาวะ ‘แรงขายมากกว่าแรงซื้อ’ และหากไม่สามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ นักวิเคราะห์คาดว่าอาจร่วงลงไปยังแนวรับถัดไปที่ ‘7.9 หมื่นดอลลาร์’ ในทางกลับกัน หากบิตคอยน์สามารถ ‘ทะลุแนวโน้มขาลง’ ได้ ก็มีโอกาสเห็นการกลับตัวขึ้นสู่ระดับ ‘9.3 หมื่นดอลลาร์’ (ประมาณ 1.36 ล้านบาท)
ในด้านข้อมูลบนบล็อกเชน (On-chain) ปัจจัยที่ช่วยพยุงราคามาจาก ‘ดัชนีสถานะของนักขุด (Miners’ Position Index: MPI)’ ของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลคริปโตชื่อดังอย่าง CryptoQuant ซึ่งบ่งชี้ว่านักขุดยังคง ‘ไม่เร่งขาย’ เหรียญในมือ ดัชนี MPI ที่ต่ำกว่า 0 แสดงถึงการลดลงของกิจกรรมส่งเหรียญเข้าแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน สะท้อนว่านักขุดยังยึดถือเหรียญไว้มากกว่าที่จะเทขายออกมา
แม้ปริมาณการถือครอง BTC โดยรวมของนักขุดลดลง แต่ในแง่ ‘มูลค่าตามราคาตลาด’ กลับเพิ่มขึ้นตามราคาที่แกร่งขึ้นของเหรียญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มนักขุดยังมี ‘ความเชื่อมั่น’ ต่อสินทรัพย์โดยรวมและไม่เร่งรีบในการปลดระบายสินทรัพย์ ความมั่นคงในพฤติกรรมนักขุดจึงเป็นอีกหนึ่งแรงหนุนที่ช่วยจำกัดการปรับฐานรุนแรงในระยะสั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าแนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าจะเป็นเพียง ‘การปรับฐานลึก’ มากกว่าจะเป็นช่วงขาลงระยะยาว
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของตลาด บิตคอยน์จะสามารถยืนเหนือแนวรับ 8 หมื่นดอลลาร์ได้นานแค่ไหนยังคงเป็นคำถามสำคัญ และจะเป็นปัจจัยตัดสินว่าตลาดจะเข้าสู่เฟส ‘ขาขึ้นรอบใหม่’ หรือ ‘การปรับฐานในเชิงลึก’ นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรับมือด้วยความระมัดระวัง
ความคิดเห็น 0