ไบรอัน เพลเลกริโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเลเยอร์ซีโร่แล็บส์(LayerZero Labs) ระบุว่า สเตเบิลคอยน์ถือเป็น ‘อาวุธลับสุดท้าย’ ของสหรัฐในการคงตำแหน่งค่าเงินดอลลาร์เป็น ‘สกุลเงินหลักของโลก’ โดยเขาชี้ว่าสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับเงินดอลลาร์มีศักยภาพในการเพิ่มความต้องการใช้งานเงินดอลลาร์ระดับโลก ด้วยความสามารถในการเข้าถึงและใช้งานข้ามพรมแดน
ในการให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph เมื่อวันที่ 24 เพลเลกริโนกล่าวว่า “สเตเบิลคอยน์สามารถเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนความต้องการเงินดอลลาร์ในระดับนานาชาติได้ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง เช่น อาร์เจนตินา หรือเวเนซุเอลา ที่แม้แต่สกุลเงินท้องถิ่นยังไม่อาจต้านแรงกดดันได้”
เพลเลกริโนยังคาดการณ์ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐและทางการรัฐต่างๆ จะให้การสนับสนุนสเตเบิลคอยน์มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดการจัดตั้งระบบนิเวศการเงินระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว ซึ่งจะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินกลางของโลก
ล่าสุด เลเยอร์ซีโร่แล็บส์ได้รับเลือกเป็นพาร์ตเนอร์ด้านการจัดจำหน่ายสเตเบิลคอยน์ที่ทางรัฐไวโอมิงเตรียมเปิดตัว โดยใช้เทคโนโลยีโปรโตคอล ‘เลเยอร์ซีโร่’ ของบริษัทเป็นหัวใจหลักของโครงการ
ในด้านตลาดตราสารหนี้ เพลเลกริโนระบุว่า การที่บริษัทผู้ออกสเตเบิลคอยน์จำนวนมากเริ่มเข้าถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็กำลังส่งผลต่อความต้องการซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ด้วย เขายกตัวอย่างว่าปัจจุบัน เทเธอร์(Tether) กลายเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในอันดับที่ 7 ของโลก โดยมีการแซงหน้าประเทศอย่างแคนาดา เยอรมนี นอร์เวย์ ฮ่องกง และซาอุดีอาระเบีย ไปแล้ว
ในเวทีการประชุมสุดยอดด้านคริปโตของทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 7 มีนาคม สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ย้ำชัดถึงจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ว่า "สเตเบิลคอยน์เป็นแกนสำคัญของกลยุทธ์ยืดอายุอำนาจของเงินดอลลาร์ และจะถูกผลักดันเป็นนโยบายลำดับแรกเริ่มตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป"
รายงานจากเชนเอนาลิซิส(Chainalysis) ปี 2023 เปิดเผยว่า มากกว่า 50% ของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศละตินอเมริกาอย่างอาร์เจนตินา บราซิล โคลอมเบีย เม็กซิโก และเวเนซุเอลานั้น มาในรูปแบบของสเตเบิลคอยน์ เนื่องจากค่าธรรมเนียมต่ำ ราคาคงที่ และความเร็วในการชำระธุรกรรมที่รวดเร็ว เป็นที่นิยมใช้งานเป็นทั้งเครื่องมือโอนเงินและเก็บทรัพย์สิน
*ความคิดเห็น*: แนวโน้มดังกล่าวชี้ชัดว่าสเตเบิลคอยน์กลายเป็น ‘ประตูสำคัญ’ ที่ทำให้ดอลลาร์สามารถแทรกซึมเป็นทางเลือกหลักในตลาดประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีระบบการเงินไม่เสถียรและจำกัดความเข้าถึงของประชาชน
ภาคอุตสาหกรรมมองว่า การขยายตัวของนโยบายสเตเบิลคอยน์ในยุคของทรัมป์อาจเป็นพันธกิจสำคัญในการรักษาฐานอำนาจทางการเงินของสหรัฐ ซึ่งอาจนำไปสู่การยอมรับสเตเบิลคอยน์ในระดับสถาบันมากขึ้น และส่งผลต่อโครงสร้างของสินทรัพย์ในตลาดคริปโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว
ความคิดเห็น 0