สหรัฐอาจได้เห็น ETF สุอิ(SUI) ตัวแรก หลัง Cboe BZX ยื่นเรื่องขออนุมัติ SEC

ตลาดคริปโตของสหรัฐอาจเปิดประตูต้อนรับกองทุน ETF ตัวใหม่ที่อิงจากเหรียญโครงข่ายสุอิ(SUI) หลังจาก BZX ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตลาดซื้อขายออปชันชิคาโก(Cboe) ได้ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เพื่อขออนุมัติจัดตั้ง ETF ที่ถือครองสุอิโทเคนโดยตรง หากได้รับการอนุมัติ กองทุนนี้จะถือเป็น ETF ตัวแรกในสหรัฐที่ลงทุนในสุอิโทเคน(SUI) โดยตรง

BZX ได้ยื่นข้อเสนอขอเปลี่ยนแปลงข้อบังคับต่อ SEC ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน โดย ETF ดังกล่าวจะดำเนินการโดยบริษัทจัดการสินทรัพย์ด้านคริปโตอย่างแคเนอรี แคปิทัล(Canary Capital) ซึ่งหากได้รับอนุมัติ ก็อาจเป็นก้าวสำคัญในการนำสุอิ(SUI) เข้าสู่ตลาดทุนกระแสหลัก ปัจจุบัน โทเคน SUI มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 94,900 ล้านบาท

สุอิเน็ตเวิร์กเป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่สร้างขึ้นจากภาษาโปรแกรมรัสต์(Rust) ผ่านเฟรมเวิร์กสมาร์ตคอนแทรกต์ที่ชื่อว่า ‘มูฟ(Move)’ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน Web3 ตามข้อมูลจาก DeFiLlama ตอนนี้สุอิมีมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ถูกล็อกอยู่ในโปรโตคอล(TVL) ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 16,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม แคเนอรี แคปิทัลได้ยื่นเอกสาร S-1 ซึ่งเป็นเอกสารลงทะเบียน ETF สำหรับ SUI ต่อ SEC อย่างเป็นทางการ บริษัทนี้ยังเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการนำคริปโตหลากหลายโทเคนเข้าสู่ตลาด ETF ไม่ว่าจะเป็น ไลต์คอยน์(LTC), ริปเปิล(XRP), เฮเดรา(HBAR), แอ็กซ์เซลลา(AXL) และเหรียญมีมอย่างเพนกู(PENGU)

ในอีกด้านหนึ่ง Cboe BZX ยังได้เสนอรายชื่อ ETF ของฟรานคลิน เทมเพิลตัน และฟิเดลิตี้ ที่อิงกับโซลานา(SOL) ต่อ SEC เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระแสความเคลื่อนไหวดังกล่าวเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยตลอดช่วงที่ผ่านมา SEC ได้รับเรื่องคำขอก่อตั้ง ETF สำหรับโทเคนเลเยอร์ 1 และมีมคอยน์หลากหลายตัว เช่น โซลานา(SOL), ดอจคอยน์(DOGE), สุอิ(SUI) และทรัมป์โทเคน(TRUMP) ซึ่งอาจสะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงท่าทีด้านกฎระเบียบ

อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลจากนักวิเคราะห์เกี่ยวกับความต้องการในตลาดสำหรับ ETF ที่อิงกับอัลต์คอยน์ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยคาทาลิน ทีชาวเซอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคารคริปโตสัญชาติสวิสอย่างซิกนัม(Sygnum) ระบุว่า “แม้ความคาดหวังสำหรับการอนุมัติ ETF จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าความต้องการจริงจะมาจากที่ใดและเกิดขึ้นอย่างไร” ความคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มที่ต้องติดตามในตลาด ETF คริปโตที่นับวันยิ่งมีการแข่งขันสูงขึ้น